วันนี้ (4 ม.ค.2566) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมของคณะ กมธ.การทหาร ระบุ ผลการประชุมของคณะ กมธ.การทหาร ที่มีมติ 4 ต่อ 9 เสียง ไม่อนุมัติให้ คณะ กมธ.เดินทางไปศึกษาดูงานการติดตั้งเรือดำน้ำ ณ เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน
จากการตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตามสัญญารัฐบาลจีนจะจัดส่งเรือดำน้ำลำแรกให้กับประเทศไทย ในช่วงเดือน เม.ย. 67 แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด
เนื่องจากรัฐบาลประเทศเยอรมนีไม่สามารถขายเครื่องยนต์ MTU ที่ใช้ติดตั้งในเรือดำน้ำของจีนได้ และขณะนี้รัฐบาลไทยชำระเงินไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 7,000 ล้านบาทแล้ว จึงต้องการเดินทางไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งต่อไปของคณะ กมธ.ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค. 66 จะมีการเสนอให้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและสอบสวนสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 65 ควบคู่ไปกับการสอบสวนของกองทัพเรือ
โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะประกอบด้วย กรรมการจำนวน 9 คน ได้แก่ ส.ส.ที่มาจากคณะ กมธ.การทหาร จำนวน 3 คน และบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชน จำนวน 6 คน
นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงกรณีการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อของการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า เมื่อเช้าวันนี้ (4 ม.ค. 66) ตนได้ไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวน 33 ล้านบาท ในการเปลี่ยนป้ายชื่อ สถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (Krung Thep Aphiwat Central Terminal) ซึ่งมีความหมายว่า “ความเจริญรุ่งเรืองแห่งกรุงเทพมหานคร” และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่ามีความถูกต้องตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 หรือไม่