หน้าแรก Thai PBS ครม.เห็นชอบงบฯ รายจ่ายปี 67 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท

ครม.เห็นชอบงบฯ รายจ่ายปี 67 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท

77
0
ครมเห็นชอบงบฯ-รายจ่ายปี-67-วงเงิน-3.35-ล้านล้านบาท

วันนี้ (10 ม.ค.2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี ที่เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 3,350,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2566 ที่กำหนดไว้ที่ 3,185,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.18 โดยสาระสำคัญงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดังนี้

1.โครงสร้างงบประมาณรายจ่าย ประกอบด้วย (1) รายจ่ายประจำ จำนวน 2,508,990.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 106,451.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.43 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 74.89 ของวงเงินงบประมาณรวม ลดลงจากงบประมาณปี 2566 ซึ่งมีสัดส่วน 75.43

(2) รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงค้าง จำนวน 33,759.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งไม่มีการเสนอตั้งงบประมาณหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.01 ของวงเงินงบประมาณรวม

(3.) รายจ่ายลงทุน จำนวน 690,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 520.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.08 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.60 ของวงเงินงบประมาณรวม ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 21.65

(4.) รายจ่ายชำระคืนเงินต้น จำนวน 117,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566 จำนวน 17,250 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.25 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.50 ของวงเงินงบประมาณรวม เพิ่มขึ้นจะปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ซึ่งมีสัดส่วน 3.14

2.รายได้สุทธิ จำนวน 2,757,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 267,000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.72

3.งบประมาณขาดดุล จำนวน 593,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จำนวน 102,000 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 14.68 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.00 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ลดลงจากปีงบประมาณพ.ศ.2566 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 3.70

ทั้งนี้ วงเงินงบประมาณรายจ่ายจำนวน 3,350,000 ล้านบาท เท่ากับกรอบวงเงินตามแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2567-2570) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2565 สำหรับงบประมาณรายจ่ายงบลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระเงินคืนต้นเงินกู้ มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐบาล พ.ศ.2561

ทั้งนี้ หน่วยรับงบประมาณ จะส่งรายละเอียดคำของบประมาณฯ ให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 27 ม.ค.2566 เพื่อพิจารณาต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรียังกำชับทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนให้มีการเบิกจ่ายรวดเร็ว เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งนำเทคโลโลยีมาปรับใช้ในการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายภาครัฐในอนาคต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่