วันนี้ (11 ม.ค.2566) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนการดำเนินโครงการการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ในปี 2565 ซึ่งกระทรวงการคลัง ได้ประกาศผลสถานะการลงทะเบียนของการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่โชว์สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ 19.64 ล้านคน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 22.29 ล้านคน
โดยจะทยอยประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติให้ทราบภายในเดือน ม.ค.นี้ และเริ่มใช้สิทธิโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนนตรี และรมว.กลาโหม ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเน้นการจัดสวัสดิการทางสังคมอย่างเจาะจง ตรงตามความจำเป็น และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย มุ่งช่วยเหลือให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายหลุดพ้นจากความยากจน ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ สำหรับกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการกำจัดความยากจน แต่ยังต้องอาศัยการผลักดันนโยบายอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางสู่ความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่ม ครม.เคาะเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการรัฐอีก 200 บาทเดือน ม.ค.66
อัปเดตบัตรสวัสดิการฯ ม.ค.66 จ่ายอะไรบ้าง
น.ส.วารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้เบิกจ่าย และโอนเงินให้แก่หน่วยงานและร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือน ม.ค.2566 ดังนี้
วันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า 200-300 บาทต่อเดือน
- วันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
- วงเงินซื้อสินค้า ตามมาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษ 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะเดือนม.ค.)
- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.66)
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
วันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินชดเชยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้ลงทะเบียนกับ กฟน. กฟภ. และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
- เงินชดเชยตามจำนวนเงินที่ชำระค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้ลงทะเบียนกับ กปน. กปภ. ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท (ที่ได้ชำระเงินแล้ว) ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
วันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)