“สิริพงศ์” เสนอ “ยุบสภาฯ” เหตุล่มบ่อยครั้ง

วันนี้ (19 ม.ค.2566) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ประชุมสภาฯล่มบ่อยครั้ง ซึ่งล่าสุดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)กัญชา กัญชงก็ล่มอีกครั้งว่า เหตุสภาฯล่มเกิดขึ้นก่อนที่ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชงเข้าสู่ที่ประชุม

เมื่อร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าก็ล่มอีก เป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะว่า การประชุมสภาแต่ละสัปดาห์ สภาต้องจ่ายเงินให้กับสมาชิกที่เดินทางมา เพื่อรอการประชุมแต่ละสัปดาห์เป็นเงินจำนวนมาก และในแต่ละวันในการนัดประชุมสภาก็มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของอาหาร และค่าใช้จ่ายของสภาฯด้วยซึ่งถ้าเป็นลักษณะนี้ไม่คุ้มค่าและไม่สามารถทำงานได้ เหตุสภาฯล่มไม่ได้เป็นเฉพาะ ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ

ก่อนหน้านี้ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯที่เป็นประชุมร่วมรัฐสภาก็ล่ม บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายสมัยการประชุมสภา ซึ่งขณะนี้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตกับประชาชนยังค้างอยู่ เช่นกฎหมายประมง , ร่างพ.ร.บ.ระบบราง

ขณะนี้น่าจะมีสมาชิกจำนวนหนึ่งลงพื้นที่และไม่อยากเกี่ยวข้องกับงานสภาแล้ว ถ้าสภาพเป็นอย่างนี้ควรยุบสภาและเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนตัดสินใจ

ถ้าร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านในวาระ 3 หรือ พิจารณาไม่ทันในสมัยประชุมนี้ พรรคภูมิใจไทยจะนำไปหาเสียงต่อหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้กัญชาก็ยังมีประกาศ ของกระทรวงสาธารณสุขควบคุมอยู่ เช่นการสูบในที่สาธารณะ การจำหน่ายกัญชาให้กับเยาวชน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นความผิดที่สามารถเอาผิดได้

นายสิริพงศ์ แต่ในเรื่องรายละเอียดของการควบคุมที่จะปลูก , จะจำหน่ายยังมองว่ากฎหมายยังมีความสำคัญและยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องเดินหน้าออกกฎหมายควบคุมต่อไป

สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำคือกัญชานำมาซึ่งรายได้ให้กับประชาชน กัญชาจะสามารถสร้างความมั่นคงทางยาให้กับประชาชน และมั่นใจว่าสิ่งที่ทำคือทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนใครที่จะใช้เป็นยาเสพติดตรงนี้ยังคงต้องมีกฎหมายควบคุม ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าออกกฎหมายควบคุมแน่นอน

ส่วนพรรคการเมืองที่ไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ พยายามเล่นเกมทำให้ร่างพ.ร.บ.กัญชาเดินไปไหนไม่ได้ นั้น ตนมองว่าทุกมาตราหากแต่ละฝ่ายทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็มีผู้แปรญัตติไว้แล้ว แต่ก็ควรพิจารณาร่วมกัน สู้กันในสภา และลงมติ ไม่ควรไม่ร่วมประชุมจนทำให้รัฐสภาล่มทำให้เสียเวลา และเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ จึงขอฝากทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ให้ช่วยกันดำเนินการกฎหมายนี้ให้ผ่านเพราะยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ประชาชนรออยู่

พร้อมยอมรับว่าเหตุสภาล่มนั้นเป็นเงื่อนไขให้นายกรัฐมนตรียุบสภาแน่นอน โดยเฉพาะถ้าเป็นกฎหมายที่รัฐบาลเสนอแล้วยังล่ม แสดงให้เห็นว่าสภาฯไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ได้ตามกลไกของสภาแล้ว