หน้าแรก Thai PBS ฝ่ายค้านยื่นวินิจฉัยสถานะรัฐมนตรี-ส.ส. “ศักดิ์สยาม”

ฝ่ายค้านยื่นวินิจฉัยสถานะรัฐมนตรี-ส.ส. “ศักดิ์สยาม”

102
0
ฝ่ายค้านยื่นวินิจฉัยสถานะรัฐมนตรี-สส.-“ศักดิ์สยาม”

วันนี้ (25 ม.ค.2566) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.พรรคประชาชาติ นายพัฒนา สัพโส และนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.พรรคเพื่อชาติ และนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ยื่นหนังสือต่อ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอให้เสนอเรื่องไปประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ ส.ส. สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

สืบเนื่องจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เข้าข่ายมีความผิดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 144 วรรคสอง ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หรือ คณะ กมธ.การเสนอการแปรญัตติหรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้ ส.ส. หรือ กมธ. มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย โดยข้อหาจะเป็นกรณีการใช้นอมินีถือหุ้นในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง รวมทั้งบริษัทแห่งนี้รับงานภายในกระทรวงคมนาคม เข้าข่ายเอื้อผลประโยชน์ต่อบริษัทดังกล่าว

 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มีการกล่าวหาว่า ใช้นอมินีถือครองหุ้นในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง แม้ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ลาออกจากการถือครองหุ้น

แต่ทางผู้ยื่นหนังสือเห็นว่าเป็นการกระทำโดยพฤตินัยของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยังคงเป็นเจ้าของบริษัทนั้น โดยที่พนักงานที่นำมาถือครองหุ้นแทนไม่มีศักยภาพในการถือหุ้น

อีกทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ยังคงรับงานภายในกระทรวงคมนาคม ทำให้เข้าข่ายเอื้อผลประโยชน์ มีความผิดตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 144 วรรคสอง เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส.สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง โดยปรากฏชัดเจนว่าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้เสนอตั้งงบประมาณกระทรวงคมนาคม ได้กระทำการทั้งทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย

ด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า การปกปิดทรัพย์สินของ รมว.คมนาคม ที่เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชนแห่งหนึ่ง ได้รับเหมางานของกระทรวงคมนาคมหลายโครงการ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว

ในขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง โดยมีมาตรา 144 วรรคสอง เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส. สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้ง ส.ส.มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นผู้รับเหมาที่เป็นนอมินีเป็นผู้รับเหมาเสียเอง จึงทำให้ผิดรัฐธรรมนูญ

ด้านนายพัฒนา สัพโส กล่าวเพิ่มเติมโดยขอฝากข้อสังเกตไปยังรัฐบาลว่า งบประมาณของกระทรวงคมนาคมใน พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2664 และ พ.ศ. 2565 ไปกระจุกตัวที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นส่วนใหญ่

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่