วันนี้ (25 ม.ค.2566) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงประเด็นต่าง ๆ จากวงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจไป 9 นาทีเศษ หลังจากนั้น ก็เริ่มมีท่าทีที่หงุดหงิด จากคำถาม นายกฯ จะอยู่ครบเทอมไหม “เมินหน้าหนี” และเมื่อถามว่า ครม.อนุมัติงบฯ ข้ามปีและงบฯ ผูกพัน ถือว่าใกล้ยุบสภาฯ แล้วทิ้งทวนไหม โดยนายกฯ กล่าวย้ำถึงความจำเป็นและเหตุที่ต้องทำไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต
ก่อนที่นายกฯ จะใช้น้ำเสียงแบบมีอารมณ์กับคำถามถึง ข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่นายทักษิณ ชินวัตร ชี้ว่ายื้อเวลายุบสภา เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่พร้อมเลือกตั้ง นายกฯ ปฏิเสธเจตนาจะอนุมัติงบฯ เพื่อทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรี : มาทิ้งอะไร ทวนอะไร พวกคุณเคยมาทำหน้าที่ตรงนี้บ้างไหม รู้เรื่องระบบงบประมาณกับเขาบ้างไหม รู้ไหมว่าเขาทำกันอย่างไร ไปศึกษาให้รู้เรื่องก่อน
ผู้สื่อข่าว : แล้วคุณทักษิณตอนนี้
นายกรัฐมนตรี : อย่าไปพูดถึงคน ๆ นั้น ผมไม่ชอบ
ส่วนการประชุมรัฐสภา หลังพิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างพิธีสาร เพื่อแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนผ่านไป 2 ชั่วโมง ส.ว.กับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ก็อภิปรายทักท้วงกันเรื่องการบรรจุวาระพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 158 กรณียกเลิกอำนาจวุฒิสภาลงมติเลือกนายกฯ และนายกฯ ต้องมาจาก ส.ส.
นายสมชาย แสวงการ เห็นควรกลับไปพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ค้างอยู่ต่อ หรือไม่ก็ต้องพิจารณา ญัตติด่วน กรณีเสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมสื่อมวลชน เป็นวาระต่อไป แต่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย คัดค้านและเน้นย้ำการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ แต่บทสรุป คือการลงมติชี้ขาด
และหลังใช้เวลารอสมาชิกแสดงตนกว่า 30 นาที กลับพบว่า “องค์ประชุมไม่ครบ” ที่ประชุมรัฐสภาล่มไปโดยปริยาย มีผู้แสดงตน 275 คน ซึ่งไม่ถึงกึ่ง คือ 337 คนจากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 673 คน เป็นเหตุให้ต้อง สั่งปิดการประชุม ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส.ส.พรรครัฐบาลและ ส.ว.ร่วมกันวางยาพรรคฝ่ายค้านล่มสภาฯ
