วันนี้ (27 ม.ค.2566) นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเปิดเวทีปราศรัยพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ครั้งแรกของ พล.อ.ประวิตร ว่า ยังไม่ได้กำหนด แต่ไม่เกินกลางเดือน ก.พ.นี้
ทั้งนี้ อาจจะไม่ใช่ลักษณะของการเปิดเวทีปราศรัย แต่จะเป็นการไปไหว้พระ วัดไทย วัดจีน และไปมัสยิด และการลงพื้นที่ป้อมปราบศัตรูพ่าย ไม่ได้มองใครเป็นศัตรู การลงพื้นที่เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยเท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ยังขาดผู้สมัครอีก 4 – 5 เขต ขณะที่ยุทธศาสตร์หาเสียงยังยึดตามที่เคยใช้เมื่อครั้งเลือกต้้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ
ขณะที่รูปแบบป้ายนโยบายจะออกจากส่วนกลางเท่านั้น โดยไม่ให้ผู้สมัครไปทำเอง และจะมีผู้ใหญ่ของพรรคร่วมลงพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่อย่างน้อยต้องมี 2 ครั้ง คือ ย่านฝั่งธน และพระนคร
นายสกลธี ยังยอมรับว่า สนามเลือกตั้งพื้นที่ กทม.ค่อนข้างยาก อีกทั้งพื้นที่ป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นพื้นที่เดิมของพรรคพลังประชารัฐ ที่ลาออกไป แต่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เรื่องตัวบุคคล 30 % ส่วนกระแสอีก 70 %
แม้ ส.ส.เก่าอาจได้เปรียบแต่จะต้องเสนอนโบายที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่น และพรรคต้องคัดสรรส่งผู้สมัครที่ดีของแต่ละเขตลงสมัคร โดยมีโอกาสเปลี่ยนตัวได้เพราะวัดจากทั้งกระแส และผลสำรวจ ด้วยความหวังว่าจะได้ ส.ส.กรุงเทพฯ อย่างน้อยต้อง 5-6 ที่นั่ง
ส่วนที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะลงพื้นที่ แขวงชนะสงคราม นายสกลธี มองว่าเป็นสีสันของการเลือกตั้ง
“พปชร.” เตรียมประชุมใหญ่ ถกปม “แคนดิเดตนายกฯ”
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2566 ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ตนเองทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม เนื่องจากว่าเป็นเวลาราชการ
วาระสำคัญ จะมีการพิจารณาแก้ไขข้อบังคับการประชุม ให้เสนอแคนดิเดตนายกฯ ก่อนที่จะมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งและต้องจับตาว่าจะมีการเสนอ พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกของพรรคเลยหรือไม่
ทั้งนี้ นายวิรัช กล่าวถึง การปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯว่า จะพยายามให้ทันกลางเดือน ก.พ. และจะมีการลงพื้นที่