หน้าแรก Thai PBS “พล.อ.ประวิตร” เปิดตัว “อุตตม-สนธิรัตน์-พล.อ.วิชญ์” กลับ พปชร.

“พล.อ.ประวิตร” เปิดตัว “อุตตม-สนธิรัตน์-พล.อ.วิชญ์” กลับ พปชร.

66
0
“พลอประวิตร”-เปิดตัว-“อุตตม-สนธิรัตน์-พลอวิชญ์”-กลับ-พปชร.

วันนี้ (30 ม.ค.2566) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวนายอุตตม สาวนายน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดินณ อยุธยา

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า น่าดีใจที่ได้ต้อนรับทั้ง 3 คน ถือเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ตนเองพูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง แล้วฟังรู้เรื่องด้วย อยากจะฝากบอกกับทุกคนว่าพรรคของเราเป็นพรรคที่เรารวมกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ฉะนั้นทั้ง 3 คนจะมาช่วย พปชร.ในการดำเนินการกิจกรรมการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อที่จะให้พรรคมีความเข้มแข็ง พร้อมขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันทั้ง 3 คน ซึ่งได้ 2 หัวหน้าพรรค กับ 1 เลขาธิการพรรคนับว่าเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ นายอุตตมจะมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์จะช่วยดูเศรษฐกิจและการเมือง ส่วน พล.อ.วิชญ์ ช่วยทั้งพรรค

ส่วนการกลับมาของทั้ง 3 คน จะทำให้ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องประชาชนเลือก จะให้ตนเองเป็นนายกฯ คนที่ 30 ได้อย่างไร ประชาชนต้องเป็นคนเลือก ถ้าไม่ได้เลือกจะเป็นได้อย่างไร

เมื่อถามว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ในพรรค มีแค่คนเดียว ไม่มีคนอื่นแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าตอบว่าไม่รู้ จะหาว่าตนไม่รู้อีก เมื่อถามย้ำว่าแล้วที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ระบุจะเข้ามาและเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครบอก ถ้านายมิ่งขวัญบอกเองก็ต้องไปถามนายมิ่งขวัญ แต่ยืนยันว่านายมิ่งขวัญยังอยู่กับพรรค และช่วยด้านเศรษฐกิจ เพราะในพรรคมีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ต้องห่วง ส่วนจะให้ใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นทั้งหมดเลยครับ ไม่เป็นไร หัวหน้ามีได้หลายคน

ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย จะตามมาร่วมงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ ต้องถามนายสมคิด ไม่ได้คุยกันเลย ก่อนจะย้ำว่าในพรรค ไม่มีความขัดแย้ง ออกไปก็ไม่ได้ขัดแย้ง

ด้านนายอุตตม กล่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่กลับมา พปชร. ว่า เรื่องสำคัญสุด คือ การสร้างปรองดอง ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ได้เชิญชวนมาทำงานร่วมกันในเวลาที่ประเทศชาติต้องการเดินหน้า พล.อ.ประวิตร แสดงอุดมการณ์มุ่งมั่นชัดเจนที่จะรวบรวมผู้คนจากหลาย ๆ ฝ่ายมาทำงานด้วยกัน อีกเหตุผลหนึ่ง คือ พวกตนเองเคยเป็นสมาชิกในบ้าน สมาชิกเก่าในบ้านหลังนี้ มีส่วนร่วมริเริ่มสร้าง พปชร.มา มีส่วนในการคิดและผลักดันนโยบายส่วนหนึ่งขึ้น เช่น บัตรประชารัฐ ที่ช่วยกันทำมา หัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะนำพรรคขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเหล่านี้ เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก้าวข้ามขัดแย้งได้แล้ว

ส่วนที่ตัดสินใจมา พปชร. เพราะดีลล่มกับพรรคไทยสร้างไทยใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ในเรื่องการเจรจาการเมือง อย่างที่ทราบกันว่าไม่ได้ลงตัว ในส่วนรายละเอียดขอสงวนไว้ แต่ไม่มีอะไรที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เราพิจารณาทำในสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อถามว่าไม่ติดใจอะไรใน พปชร.แล้วใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า หัวหน้าพรรคพูดแล้ว วันนี้เป็นเรื่องของการก้าวข้ามความขัดแย้ง มาช่วยกันสร้างความปรดอง ไม่ได้มีอะไรติดใจ ตอนเดินออกไปก็ไม่มีอะไรขัดแย้ง เรื่องความเห็นต่าง เข้าใจไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา เกิดขึ้นได้ในทางการเมือง แต่วันนี้ถ้าเราตั้งใจว่าจะมาทำงานด้วยกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกัน หลาย ๆ คนก็ไม่ได้ติดใจ ทั้งนี้ เดี๋ยวจะมีคนจากพรรคสร้างอนาคตไทยคนทยอยตามกันเข้ามาอีก

ย้ำความสัมพันธ์ “สมคิด” ยังเหมือนเดิม

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างนายสมคิด นายอุตตม และพปชร. คืออะไร นายอุตตม กล่าวว่า อย่างแรกเราร่วมกันก่อตั้งพรรค วันนี้การที่ก้าวเข้ามา พปชร. พวกตนได้ปรึกษากับนายสมคิด ท่านก็ยินดี บอกว่าตราบใดที่เป็นการมาช่วยกันแล้วทำให้ประเทศชาติเดินไปได้ ปรองดอง ลดความขัดแย้ง ท่านยินดี ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม พวกเราออกมาทำการเมืองก็ปรึกษากันมาตลอด เมื่อถามย้ำว่า นายสมคิดจะช่วยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตอบแทนนายสมคิดไม่ได้ว่าจะทำการงานต่อหรือไม่ อย่างไร เมื่อถามว่า นายอุตตมและนายสนธิรัตน์จะอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่เท่าไหร่ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ตนเองและ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้พูดเรื่องนี้ และไม่มีเรื่องการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จะสามารถทำงานร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีข่าวจะกลับเข้ามาได้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ได้มาหรือเปล่า ทำให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวแทรกทันทีว่า เขายังไม่ได้มา ผู้สื่อข่าวจึงถาม พล.อ.ประวิตร ว่า ร.อ.ธรรมนัส จะเข้ามาเมื่อไหร่ แต่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่รู้ ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัส มาถามอะไรตน ไปถามถึงคนอื่นไม่ได้ ตอบแทนเขาไม่ได้ ต้องถามเรื่องเกี่ยวกับตน จะมาถามเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส กับนายอุตตมก็ไม่ได้ เพราะเขายังไม่เคยเจอกัน จะมาถามอะไร เขาเสียหาย และไม่สมมุติ ถ้าเรื่องสมมุติก็ถามไม่ได้ จะสมมุติได้อย่างไร

ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ความรู้สึกวันนี้คือได้กลับบ้าน รู้จักคุ้นเคยตั้งแต่ก่อตั้งพรรค ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร มีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ยินดีอย่างยิ่งที่กลับมาร่วมกันทำงานกับหัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค การกลับมาของนายอุตตมกับตนคือ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่ประเทศเราต้องการ การเมืองอ่อนแอเพราะเราแตกเป็นส่วนกันมาก ทำให้ความเข้มแข็งทางสถาบันการเมืองอ่อนแอลง สิ่งสำคัญที่สุดสถานบันการเมืองต้องเข้มแข็ง พรรคการเมืองต้องเข้มแข็ง ถ้านักการเมืองอ่อนแอจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาประเทศไม่ได้ วันนี้ประเทศหลังจากวิกฤตโควิด-19 พลังงาน มันส่งสัญญาณว่าเราต้องการพลังในการเปลี่ยนแปลงประเทศ หัวหน้าพรรคมีนโยบายที่สอดรับกับเรา คือ การระดมผู้คนเข้ามาแก้ปัญหา เราเองตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย เรามีอุดมการณ์คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และจุดยืนคือ ตั้งพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง เรามีเจตนารมณ์และอุดมการณ์เดียวกัน ถ้าไม่แตกแยกกัน ดีทั้งสิ้น เรากลับมาด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ ที่ผ่านมาเราเจรจาพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็ด้วยอุมดการณ์เหล่านี้ เพื่อให้สถาบันการเมืองเข้มแข็ง โชคดีที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรค การพูดคุยกัน ร่วมกันได้อย่างสบายใจ ไปด้วยกันได้

พปชร.ตั้งเป้า 120 ที่นั่ง

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวตอนหนึ่งในช่วงเปิดตัวถึงกระแสการตอบรับจากประชาชนหลังลงพื้นที่ถี่ในช่วงนี้ รวมถึงการปรับลุคการแต่งตัว ว่า ต้องถามกลับสื่อมวลชน ว่าตนเองเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนจะกล่าวว่าไปที่ไหนก็มีแต่คนต้อนรับ และขอถ่ายรูปกันทั้งนั้น ซึ่งการแต่งตัวแบบนี้ ใส่มานานแล้ว ไม่ใช่กลยุทธ์อะไรแต่งตัวให้วัยรุ่นขึ้น

ส่วนแต่งตัวเช่นนี้จะเท่หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ถามกลับว่าแล้วเท่มากไหม ถ้าเท่ก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งน้ำเสียงที่ พล.อ.ประวิตรตอบกลับค่อนข้างออดอ้อนและเป็นกันเอง ท่ามกลางเสียงปรบมือดังลั่นทั้งห้องประชุม

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคตั้งเป้าที่นั่ง ส.ส.ไว้ 150 ที่นั่ง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะมีผู้ที่ร่วมอุดมการณ์กลับมาร่วมงานกับพรรคเพิ่มมากขึ้น เพื่อพัฒนาประเทศให้ประชาชนมีงานทำอยู่ดีมีงานทำ ก้าวข้ามความขัดแย้งทุกปัญหา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่