สมาชิกของบาร์โจลส์กลุ่มขวาจัดในฝรั่งเศส 3 คน ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานวางแผนในการลอบโจมตี เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส หลังจากทางกลุ่มวางแผนเลือกพิธีรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสมีกำหนดการเข้าร่วมเมื่อเดือน พ.ย. 2561 ด้วยการใช้มีดเข้าโจมตีมาครง
อย่างไรก็ดี ทนายความของกลุ่มสมาชิกขวาจัดอ้างว่า กลุ่มจำเลยเป็นแค่พวกหัวรุนแรงที่มีความคิดเลอะเทอะ โดยพวกเขาไม่ได้มีการวางแผนลอบโจมตีประธานาธิบดีฝรั่งเศสอย่างชัดเจนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี อัยการกล่าวว่าแก๊งนี้มีจุดประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลฝรั่งเศสด้วยความรุนแรง ทั้งนี้ จำเลยทั้งสามถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานร่วมกันเตรียมการก่อการร้าย
ฌอง-ปีแยร์ บูแยร์ วัย 66 ปี เป็นผู้ถูกตัดสินโทษจำคุกนานที่สุดเป็นเวลา 4 ปี โดยศาลสั่งให้รอลงอาญา 1 ปี นับเป็นคำตัดสินที่ต่ำกว่าโทษจำคุกสูงสุดตามกฎหมายฝรั่งเศสที่มีอยู่ถึง 10 ปี ในขณะที่จำเลยอีก 2 คนได้รับโทษจำคุกน้อยกว่าบูแยร์ โดยมีชายคนที่สี่ได้รับโทษจำคุก 6 เดือนในข้อหาครอบครองอาวุธ
ผู้กระทำความผิดทั้งหมดถูกจับกุมในเขตโมเซลตะวันออก ทั้งนี้ ตำรวจพบมีดสไตล์คอมมานโดและเสื้อกั๊กของกองทัพในรถของบูแยร์ ก่อนที่จะมีการพบปืนที่บ้านของเขาในเวลาต่อมา ทั้งนี้ สมาชิกของกลุ่มอีก 9 คนถูกปล่อยตัวหลังจากไม่พบการกระทำความผิดใดๆ
ในระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้รับฟังเสียงการสนทนาทางออนไลน์ที่มีเนื้อหาการเหยียดผิว ซึ่งทางกลุ่มขวาจัดได้พูดถึงการย้ายถิ่นฐาน ความกลัวเกี่ยวกับสงครามกลางเมือง และความเกลียดชังที่มีต่อมาครง โดยในการสนทนาครั้งหนึ่ง แม่ลูกสามซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มได้อวดความสามารถของเธอว่า เธอสามารถบุกเข้าไปทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรัสเซีย 500 นาย
กลุ่มขวาจัดเดียวกันนี้ยังถูกตั้งข้อสงสัยว่า พวกเขาได้วางแผนโจมตีมัสยิดและผู้อพยพ “ฉันโกรธมาก โกรธมากถึงขนาดพูดออกมาแบบนั้น” จำเลยรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงวัย 55 ปี กล่าวต่อศาลเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความคิดที่จะลักพาตัวและเผาชาวมุสลิม
หัวหน้าอัยการฝรั่งเศสเรียกกลุ่มขวาจัดนี้ว่าเป็น “ผู้บ่มเพาะการกระทำที่รุนแรง” และในขณะที่มุมมองบางส่วนของพวกเขาอาจดู “ผิดปกติ” แต่ “ภัยคุกคามนั้นมีอยู่จริง’ ทั้งนี้ กลุ่มบาร์โจลส์ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 หลังจากการโจมตีของนักรบอิสลามหัวรุนแรงในฝรั่งเศส รวมถึงการโจมตีที่สำนักงานนิตยสาร ชาร์ลี แอบโด และคอนเสิร์ตฮอลล์บาตากลันในกรุงปารีสในปี 2558
อย่างไรก็ดี ทนายความฝ่ายจำเลยกล่าวว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนชายขอบจากชนบท โดนทั้งหมดผู้สนับสนุนขบวนการเสื้อกั๊กเหลืองต่อต้านรัฐบาล นอกจากนี้ ทนายความคนหนึ่งยอมรับว่า ทางสมาชิกบางคนในกลุ่มมีการแสดงออกถึง “ความเกลียดชัง” แต่ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นจาก “ความทุกข์ยากทางสังคม” ที่เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาคิดเช่นนั้น
ที่มา: