วันนี้ (26 ก.พ.2566) นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ และอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม เปิดเผยอาการของทั้ง 2 คน ว่า ขณะนี้ไม่สามารถออกมาแถลงการด้วยตัวเองได้ เนื่องจากสภาพร่างกายไม่แข็งแรง และจำเป็นต้องพักผ่อน
ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้มี 2 หัวข้อในการแถลง คือ เรื่องอาการของทั้ง 2 คน ขณะนี้สภาพร่างกายผอมแห้งและไม่มีเรี่ยวแรง อยู่ได้เพราะสารอาหารผ่านทางน้ำเกลือ ซึ่งอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.2566 จนถึงขณะนี้รวมแล้ว 40 วัน แพทย์จาก รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จึงมีความเห็นว่าควรส่งตัวทานตะวันและแบม กลับเข้ารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ โดยทันที เนื่องจากไม่สามารถกินอาหารปกติได้และรับสารอาหารผ่านทางน้ำเกลือได้น้อยลง ประกอบกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่ไม่อำนวยความสะดวก ทำให้ร่างกายของทั้งสองแย่ลง
จากการสอบถามทั้ง 2 คน ไม่ยอมกลับเข้าโรงพยาบาล และจะเดินหน้าอดอาหารอยู่ที่หน้าศาลฎีกาต่อตามอุดมการณ์ที่ตั้งใจไว้ หลังทราบว่านายถิรนัย และนายชัยพร ผู้ต้องขังที่ถูกศาลชั้นต้นจำคุก 3 ปี ในคดีหมิ่นสถาบัน ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อเช้านี้ ส่วนนายคทาธร ผู้ต้องขังอีก 1 คนที่ถูกดำเนินคดีเดียวกัน ศาลอยู่ระหว่างสืบเสาะเงื่อนไขในการให้ประกันตัว
ทนายความ ยังเปิดเผยอีกว่า สิ่งที่ทั้ง 2 คนทำ ไม่ใช่แค่ต้องการให้ปล่อยตัวเพื่อนผู้ต้องขังคดีการเมือง แต่ต้องการเรียกร้องหลักการที่ถูกต้อง คือ ผู้ต้องหาคดีอาญาให้ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) เตรียมยื่นหนังสือขออนุญาตต่อประธานศาลฎีกา เพื่อเข้าไปอดอาหารอยู่ที่อนุสาวรีย์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งอยู่ภายรั้วของศาลฎีกา ด้วยเหตุผลว่า เป็นที่โล่ง ไม่เกะกะใคร คืนพื้นที่ศาลฎีกาและเพื่อความสะดวกทางด้านจราจร, มีกระแสข่าวถึงความไม่ปลอดภัย มีการโทรมาข่มขู่ ก่อกวนจากบุคลที่ไม่รู้จัก และจุดที่จะย้ายไปนั้น เป็นจุดต่อสู้ทางการเมืองมาตั้งแต่สมัยก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในวันนี้มีประชาชนนำช่อดอกไม้มามอบและให้กำลังใจทั้ง 2 คน