วันนี้ (27 ก.พ.2566) ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการพิจารณา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ว่า วุฒิสภาบรรจุวาระการประชุมไว้แล้ว ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ซึ่งพร้อมพิจารณาทันทีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติอนุมัติ โดยกำชับ ส.ว.ให้สแตนด์บายถก เตรียมความพร้อมจนถึงเวลา 24.00 น. หากสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบ ได้ยินข่าวมาว่าจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ก็จะทำให้วุฒิสภาไม่สามารถพิจารณาได้ ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาล
“การพิจารณากฎหมาย ต้องคานทีละสภา และถ้าพรุ่งนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของ ส.ส. ได้ข่าวมาว่าจะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าส่งศาล ก็เล่นกีฬาต่อ” ประธานวุฒิสภากล่าว
ประธานวุฒิสภา ขออย่าเพิ่งสมมุติว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะล่ม อย่าคิดไปก่อน ส่วนตัวเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาอย่างไรก็จากครบองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงปิดสมัยประชุม กำชับสมาชิกวุฒิสภาอย่างไรในการลงพื้นที่ ประธานวุฒิสภาเปิดเผยว่า ได้กำชับแล้วว่า อย่าไปร่วม หรืออย่าไปเผยแพร่ชักจูงทางการเมือง หรือการเชียร์ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งหากไปร่วมกิจกรรมก็จะต้องระวัง รวมถึงการไปฟังปราศรัยก็ต้องระวังด้วย เพราะเป็นผู้ใหญ่อาจถูกเชิญไป แม้จะเข้าไปรับฟังในฐานะประชาชน แต่บทบาทของ ส.ว.ก็เป็นที่สนใจของประชาชนเช่นกัน หากเขาเห็นก็อาจจะเข้าใจว่า ส.ว.ไปเข้าข้างใคร จึงย้ำให้ระมัดระวัง
ส่วน ส.ว. ที่อาศัยอยู่กรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีกว่า 70 คน ที่เคยลงพื้นที่ ก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน ก็ขอให้งดภารกิจไปก่อน พร้อมย้ำการวางตัวที่เป็นกลาง
ขณะเดียวกันประธานวุฒิสภาเป็นห่วงส.ว.ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งอาจมีเครือญาติ หรือคนรู้จัก ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องระมัดระวังเพราะอาจมีอิทธิพลต่อประชาชนในการลงคะแนน ซึ่ง การเป็นวุฒิสภาไม่สามารถทำได้ ในการไปช่วยใครหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. และเชื่อว่า คงไม่ใช่เหตุผล ที่จะอ้างว่า ส.ว. ต้องเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี จึงต้องไปติดตามฟังการปราศรัย เพราะการโหวตเลือก สามารถพิจารณาจากปัจจัยอื่นได้ไม่จำเป็นจะต้องไปพบนายกฯ