พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ
พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น
พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ
เหล่านี้คือ มอตโต้หาเสียงของแต่ละพรรคการเมืองที่ต้องการสื่อสารไปยังประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่ง อ.ทวิสันต์ โลณานุรักษ์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มองว่าเป็นการสื่อสารที่มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงของคนไทย ซึ่งอาจเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของพรรคการเมือง แต่เมื่อทีมงานพรรคประเมินสถานการณ์แล้ว ยังสามารถปรับเปลี่ยนมอตโต้เพื่อแก้เกมในช่วงโค้งสุดท้ายได้
เมื่อเวลาผ่านไป พรรคการเมืองต้องวิเคราะห์ว่า กระแสตอบรับจากมอตโต้ที่ทำอยู่ไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็ต้องเปลี่ยน ยกสุดท้าย อย่างในอดีตที่เราเคยได้ยิน
“ไม่เลือกเราเขามาแน่” หรือ “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่”
ขณะที่ผลการสำรวจคะแนนนิยมของแคนดิเดตนายกฯ และพรรคการเมืองหลายสำนัก ที่พบว่าบางกรณีคะแนนไม่สอดคล้องกัน เช่น กรณีคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สูงกว่าคะแนนนิยมของพรรครวมไทยสร้างชาติหลายพื้นที่
ประเด็นนี้ อ.ทวิสันต์ เห็นว่า ต้องดูที่คะแนน ส.ส.เขตก่อน เพราะเป็นตัวชี้วัดโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้คะแนน ส.ส.เขตมากพอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
คุณอุ๊งอิ๊งไม่ต้องไปแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าพรรคได้ ส.ส.เขตเยอะก็เป็นนายกฯ ได้โดยอัตโนมัติ … เราต้องดูที่ ส.ส.เขตเป็นหลัก ถ้าไม่ถึง 25 ที่นั่งก็เสนอนายกฯ ไม่ได้
อาจารย์ทวิสันต์ เชื่อว่า หากประชาชนเลือก ส.ส.เขต หรือ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคใดมาก ส.ว.ก็ต้องทำหน้าที่โดยฟังเสียงประชาชนเหมือนกัน หากไปมุ่งที่ตัวนายกฯ ก่อน โดยไม่มีฐานเสียง ส.ส.รองรับ ก็จะเป็นรัฐบาลที่บริหารงานลำบาก
อ่านข่าวการเมืองเพิ่ม :
“ชูวิทย์” โต้ ก.คมนาคมร้อนตัว ลั่นส่งหลักฐานทุจริตให้ “นายกฯ-ป.ป.ช.” แล้ว
