‘โทนี่’ ระบุผ่าน แคร์ทอล์ก แซว ‘แมนฯ ยูไนเต็ด’ น่าสงสารโดน ‘ลิเวอร์พูล’ ยำเละเทะ 7-0 ติงเพิ่มเงิน อสม.จะหาเงินไหนมาจ่าย อสม. พร้อมวิเคราะห์นโยบาย ศก. 8 พรรคการเมือง ชี้ นโยบายของ รทสช. ถ้า ‘เพื่อไทย’ เป็นรัฐบาลจะสร้างรายได้ผ่านซอฟต์พาวเวอร์ ทำให้บัตรคนจน 1,000 บ.ถูกเมิน ไม่ตื่นเต้นพักหนี้ 3 ปีของ ‘ภูมิใจไทย’ บอกเคยดันมาแล้วปี 43 ชมนโยบาย ‘เพื่อไทย’ ดันจีดีพีโต 5% สร้างรายได้ด้วยซอฟต์พาวเวอร์มองเห็นอนาคต เผย ‘อิ๊งค์’ ชอบมากขยับวันเลือกตัั้ง 14 พ.ค.นี้ ได้คลอดลูกก่อนออกมาหย่อนบัตร
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 7 มี.ค. 2566 ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘นโยบายเศรษฐกิจพรรคไหน…ทำใจเธอละลาย’
โดยในช่วงแรก โทนี่ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลทุกวันนี้ที่คิดแบบวันต่อวัน จะไม่มีเป้าหมาย ยุทธศาสตร์หรือทางแก้ปัญหาในระยะยาว เป็นรัฐบาลที่มาทำธุรการ ไม่ได้มาบริหาร โครงสร้างจะอ่อนลงเรื่อยๆ กินบุญเก่า วันนี้ไทยเราไม่ติดใน G20 หรือ 20 อันดับต้นของ GDP โลก ของไทยเราเป็นอันดับ 24 ของโลก กว่าจะเข้าไปอยู่ใน G20 ได้คงลำบาก ต้องโตเท่าตัวอย่างด่วนจี๋ ต้องกล้าใช้นโยบายเด็ดๆ อย่างจริงจัง
“เรากล้าอย่างเดียวคือกล้าเพิ่มเงิน วันนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ก็ดีใจ ได้เพิ่มเงิน อสม. อสส. ซึ่งเป็นเรื่องดีนะ เพราะเงินเขาน้อย แล้วการหาเงินล่ะ จ่ายเงินมันง่าย ใครก็จ่ายเป็น อยากจะจ่ายแล้วหล่อ ง่ายมาก แต่มันกัดกร่อนลงทุกวัน งบประมาณก็ขาดดุลทุกวัน แล้วเมื่อไหร่จะพ้น เพิ่มหนี้ของประเทศไทยไป”
ในช่วงหนึ่ง โทนี่ ได้กล่าวถึงผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดที่ผ่านมา (5 มี.ค.) โดยระบุว่า ลิเวอร์พูลขยี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยคะแนน 7 ต่อ 0 ทั้งที่แมนยูฯ กำลังประกาศขายที่ 6 พันล้านเหรียญ มีคนแย่งซื้อ เจอ 7-0 เข้าไปนี่ไม่รู้เลย
“ความจริงแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะระส่ำระสาย แพนิคจนขนาดนั้น โดนยิงทีละลูกๆ เห็นแล้วน่าสงสาร” โทนี่ กล่าว
จากนั้น โทนี่ และ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันวิเคราะห์และประเมินนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคการเมืองต่างๆ 8 พรรคการเมือง ก่อนการเลือกตั้งทั่วไป 2566 ประกอบด้วย
1) พรรครวมไทยสร้างชาติ
โทนี่ เน้นว่า อย่าคิดเพียงให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มโดยนำเงินไปแจก แต่ต้องคิดไปถึงว่าจะทำให้เงินหมุนเวียนอย่างไร เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาสอย่างไร แต่ส่วนใหญ่พรรคการเมืองจะเน้นจ่ายอย่างเดียว ไม่รู้วิธีหา หลายคนโจมตีนโยบายประชานิยม แต่ก็กลับมาเลียนแบบอีก และเลียนแบบเป็นท่อนๆ แต่ไม่รู้วิธีทำให้ยั่งยืน แบบนี้แข่งกันล่มจม
ดร.อนุสรณ์ เสริมว่า กระแสวิจารณ์พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย เป็นประชานิยม ซึ่งมีทั้งแง่บวกแง่ลบ แต่จากตนสำรวจนโยบายของเพื่อไทยด้วยใจเป็นกลางแล้ว เป็นประชานิยมที่ตอบโจทย์หลายอย่าง เช่นยกระดับรายได้ของประเทศ เพิ่มกำลังซื้อ นำมาสู่ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ แต่หลายพรรคเน้นแจกเงินแบบอุปถัมภ์ แข่งกันแจก แต่ไม่สร้างระบบที่เข้มแข็งยั่งยิน
“สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วยเลยกับนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติเลย คือนำเงินกองทุนประกันสังคมมาใช้ 30% ไม่มีประเทศไหนทำกัน เพราะกองทุนประกันสังคมมีเพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อประชาชนแรงงานในระยะยาว แต่หากเอาเงิน 30% มาใช้ก่อนเขาเกษียณ กองทุนนี้จะอยู่ไม่ได้ในระยะยาว”
เมื่อถามว่า มีคนในรวมไทยสร้างชาติท้าว่า กล้ายกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ โทนี่ ถามกลับว่า หากจะให้คนจนพึ่งพาไปตลอด จะสร้างงานให้เขาได้อย่างไร ส่วนพรรคเพื่อไทยมีนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ขุดมาครอบครัวละคน เพื่อฝึกฝนและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
“ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล บัตรคนจน (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) จะถูกเมินไปเอง โดยไม่ต้องเลิก ไม่มีความหมายเลย เพราะเขาจะมีรายได้ที่เหนือกว่า 1,000 บาทเยอะแยะ” โทนี่กล่าว
2) พรรคพลังประชารัฐ
โทนี่ ชี้ว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรครัฐบาล มีนายกฯ ที่พรรคสนับสนุน แม้ภายหลังจะมาแตกแยกกันไป แต่นโยบาย 13 อย่างกลับทำไม่ได้จริง ทำให้สูญเสียเครดิตหรือความน่าเชื่อถือ ท้ายสุดแม้จะมีคนทำนโยบายเดิมกลับมา ปัญหายังอยู่ที่ทำเป็นหรือไม่
ดร.อนุสรณ์ ระบุ เมื่อครั้งหาเสียงเมื่อปี 2562 ทั้งที่นโยบายบางเรื่องน่าจะทำได้ หากรัฐบาลเต็มที่ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ รัฐบาลต้องฝืนไม่เห็นด้วยกับนายจ้าง ฟังนายจ้างมากไปนิด จึงไม่ขึนค่าแรงให้ ถึงขึ้นบางปีก็ต่ำกว่าเงินเฟ้อ จึงไม่อาจแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้เลย โดยเฉพาะในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ปัญหาความเหลื่อมล้ำย่ำแย่ที่สุด
โทนี่ เสริมว่า ประเทศอื่นๆ เช่ร สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ก็มีค่าแรงขั้นต่ำที่สูง แต่นายจ้างก็ไม่ขาดทุน เพราะเศรษฐกิจภาพรวมดี วันนี้ประเทศไทยต้องทำให้เศรษฐกิจโต ไม่ต้องทุบหัวคนข้างบน แต่ต้องอุ้มตูดคนข้างล่างให้ขึ้นมา เมื่อทั้งข้างล่างและข้างบนสูงขึ้น ก็จะเก็บรายได้จากภาษีได้มากขึ้นด้วย
“อย่างเรื่องพักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3 ปี คนป่วยอยู่ ไปให้เขาแบกหินไม่ไหวหรอก รัฐตัวใหญ่กว่า เอาหินมาแบกรอไว้ก่อนได้ไหม พอเขาหายป่วยแข็งแรงแล้ว ค่อยเอาหินไปให้เขาแบกใหม่ เขาก็จะแบกได้ตังปลิว ไม่ใช่อยู่ๆ พักหนี้เพื่อสนุก เพื่อเท่ ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้เขาฟื้น เมื่อเขาฟิ้นแล้วเขาทำได้หมดแหละ” โทนี่ กล่าว
3) พรรคภูมิใจไทย
โทนี่ มองว่า นโยบายดังกล่าวเฉยๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้น เพราะตนเคยปราศรัยเรื่องพักหนี้ 3 ปี มาตั้งแต่ 2543 จึงมองว่าไม่มีอะไรใหม่ สิ่งสำคัญกว่าสร้างคะแนนนิยม คือฟื้นเศรษฐกิจกลับมา ให้ประเทศกลับสู่วินัยการเงินการคลังที่ถูกต้อง ไม่ใช่พอไม่มีเงินก็กู้ และเป็นการใช้เงินแบบไม่ต้องตรวจสอบในสภาฯ ด้วย ถือว่าน่ากลัวมาก
“เอาเงินเยอะๆ ไปให้กับมือคนที่ใช้เงินไม่เป็น ยังไม่พูดถึงทุจริตนะ ยิ่งเป็นหนี้ฟรีๆ นโยบายเศรษฐกิจภาพรวมต้องออกมาให้ได้ว่า กำลังจะให้ประเทศเจริญขึ้น ดีขึ้น คนมีความสุขขึ้น มีโอกาสร่ำรวยขึ้น เห็นอนาคตตัวเอง” โทนี่ กล่าว
4) พรรคชาติพัฒนากล้า
อนุสรณ์ กล่าวถึงนโยบายยกเลิกแบลคลิสต์ เครดิตบูโร ที่จะทำให้เกิดปัญหา ไม่สามารถนำหนี้มาแก้หนี้แล้วยกเลิกได้บ่อยๆ จะทำให้ระบบการเงินเสียหาย การจะแก้ปัญหาของคนเป็นหนี้ ควรแก้ได้การสร้างรายได้ หรือควรปรับแก้โครงสร้างหนี้
ด้าน โทนี่ ระบุว่า ปัจจุบันนี้คนไทยต้องรับกรรมจากหนี้เพราะสภาพบ้านเมือง ตั้งแต่รัฐประหาร มาจนวิกฤตโควิด-19 จนต้องผ่อนไปจนสะดุดเป็นแบลคลิสต์ จนขาดโอกาสในหลายๆ ด้าน แต่ในเมื่อบริบทบ้านเมืองที่ผ่านมาย่ำแย่ ควรต้องพิจารณาพักไว้ก่อน แล้วให้โอกาสลูกหนี้อีกสักรอบ ซึ่งสถาบันการเมืองต้องดูให้ละเอียดว่ายกเลิกได้หรือไม่
5) พรรคไทยสร้างไทย
อนุสรณ์ มองว่า นโยบาบบำนาญประชาชน 3,000 บาท ทำได้ แต่ต้องใช้เงินระดับแสนล้านบาท ต้องดูว่าจะหามา หรือเกลี่ยงบประมาณมาจากไหน แต่การจัดสวัสดิการเช่นนี้ยังไม่เป็นระบบ ควรต้องสร้างระบบที่รองรับแรงงานอิสระ หรือไม่ได้อยู่ในระบบสวัสดิการหรือกองทุนประกันสังคม
ด้าน โทนี่ มองว่า ถึงเวลาประเทศไทยต้องดูว่านโยบายทั้งหลายที่ออกมากระจัดกระจาย โดยไม่เป็นภาพรวม บางนโยบายก็กำลังดำเนินอยู่ ตนมองว่า ต้องนำนโยบายทั้งหลายนี้มาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน เพื่อไม่ให้กระทบภาพรวม และเสียเงินเปล่า
6) พรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกลนำเสนอการแก้ปัญหาในเชิงระบบ ต่างจากพรรคอื่นพอสมควร โดยเฉพาะรัฐสวัสดิการลดความเหลื่อมล้ำ แต่ต้องดูกันอย่างจริงจังว่า สถานะของไทยเป็นรัฐสวัสดิการได้หรือไม่ แต่ถือเป็นพรรคที่จริงจัง มีเป้าหมายชัดเจน คล้ายพรรคไทยรักไทยในอดีต
อย่างไรก็ตาม อนุสรณ์ มองว่า จุดอ่อนของพรรคก้าวไกลคือ ยังไม่เคยบริหารประเทศ จึงอาจจะโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ยาก แต่ตนมองว่า ควรจะให้พรรคที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ควรจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ซึ่ง โทนี่ เสริมว่า “ฝ่ายประชาธิปไตยมันมนุษย์พันธุ์เดียวกันนะ”
7) พรรคประชาธิปัตย์
โทนี่ ให้ความเห็นสั้นๆ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็คงได้พูด วันนี้ต้องยอมรับว่าทีมนักคิดของพรรคเริ่มร่อยหรอ และไม่ค่อยได้สร้างคนรุ่นใหม่ๆ
8) พรรคเพื่อไทย
โทนี่ ระบุว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ถ้ากรุ๊ปปิ้งออกมา ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ก็กลับมาอยู่จีดีพีเพื่ออุ้มรายได้ และให้คนที่อยู่ในประเทศไทยได้มองเห็นอนาคตตัวเอง เพราะนโยบายของพรรคเพื่อไทยจะเห็นเรื่องจีดีพีภาพรวม ถ้าจีดีพีไม่โตจะทำพวกนี้ไม่ได้
โทนี่ ระบุว่า เพิ่มจีดีพี 5%ต่อปี รายได้จะเพิ่ม 8 แสนล้านบาท เช่น สร้างรายได้จากซอฟต์พาวเวอร์เอาคนมาสอน คนช่างฝีมือดีๆ ให้ไปตอกตะปูในโรงงานเสียดายหรือไม่ แต่หัวควรเอามาใช้อย่างอื่น เขาเป็นคนทำกับข้าวดี แต่ส่งไปขุดดินก็เสียดาย “ตอนทำกองทุนหมู่บ้านใช้นักศึกษาปริญญาโท เขาไปช่วยอยู่กับชาวบ้านช่วยระบบบัญชี จัดประชุมให้อยู่ร่วมทำงานกัน แล้วให้หน่วยกิตกับนักศึกษาปริญญาโท ที่ไปจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน อย่างนี้ต้องใช้นักศึกษา ปริญญาโท ทั่วประเทศมีเยอะ ให้เบี้ยเลี้ยงให้หน่วยกิต” โทนี่ กล่าว
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี บอกว่า พรรคไทยรักไทยใช้นโยบายคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน แต่พอมาถึงวันนี้ เนื่องจากเราเจอปัญหาหยุดชะงักไป 20 ปี เทคโนโลยีเปลี่ยนไปมาก ส่วนพรรคเพื่อไทย เน้นว่า คิดใหญ่ ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน คีย์เวิร์ดตรงนี้ มันไม่สามารถค่อยๆคิดไปทีละเล็กน้อยได้ เมื่อค้นไส้ในคิดใหญ่มาก ในเรื่อง 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ คือการนำทักษะของคนทั้งประเทศ ในต่างประเทศ พรรคการเมืองต่างประเทศจะเน้นการสร้างงาน แต่ของไทยไม่ค่อยพูดเรื่องการสร้างงานเวลาพูดถึงนโยบาย แต่นี่บอกจะสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่มันเกินคาดมาก เป็นการคิดใหญ่ทั้งระบบ ถ้าทำได้จริงใน 4 ปีจะเปลี่ยนในแง่วิธีการคิดของคนไทย
โทนี่บอกว่า แม่ครัวบ้านเราจะเยอะ ส่วนจะทำยังไงเอาคนเหล่านี้ไปทำงาน ทำให้ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาวคนเล็กของตนบอกว่า “พ่อก็นโยบายเก่าไทยรักไทยไง ครัวไทยสู่ครัวโลก เราก็ขยายครัวไทยให้เหมือนแมคโดนัลด์ที่ขยายสาขาให้เต็มดิ” ดังนั้นทุกที่ต้องการแม่ครัวไทย ถ้าขยายสาขาได้ปีละหมื่นก็ได้ 10,000-20,000 คน
ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า จีดีพีขยายตัว 5% เป็นหมุดหมายที่สำคัญมาก เพราะมันเป็นความพยายามจะให้้ประเทศไทยโตเต็มศักยภาพ นโยบายจะสนับสนุนตรงนี้ ในนโยบายย่อยตอบโจทย์ระดับหนึ่ง จีดีพีที่โต 5-6% ต้องกระจายให้คนส่วนใหญ่ มีนโยบายช่วยคนฐานราก แต่ทำยังไงให้เกิดนโยบายในเชิงระบบ และทำให้เศรษฐกิจโต 5% ภายใต้งบฯ 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบฯประจำ 70-80% และจะเหลืองบฯ ลงทุนเพียงแค่ 10% ดังนั้น เราจะทำยังไงมีนโยบายไม่ต้องใช้เงิน เช่นการผ่อนคลายกฎระเบียบ การเปิดเสรีให้เพิ่มการแข่งขัน ลดการผูกขาด หรือประเทศจีน เกาหลีใต้ ไต้หวันเคยทำสำเร็จด้วยการทำเศรษฐกิจโตด้วยการส่งออก นโยบายบางอย่างไม่สามารถพูดในสาธารณะได้โดยเฉพาะนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนจะทำให้เศรษฐกิจโต
เผย ‘อิ๊งค์’ ชอบมากเลือกตั้ง 14 พ.ค. เหตุคลอดลูกแล้ว
ผู้ดำเนินรายการถามถึงห้วงเวลายุบสภาฯ หลังจากนี้ไปจะเสียเปรียบหรือได้เปรียบ โทนี่ระบุว่า ยังไงก็ต้องยุบสภาฯ ก่อนวันที่ 22 มี.ค.นี้ เพราะว่า 23 มี.ค.จะครบเทอม ยังไงจากวันนี้ไปถึง 22 มี.ค.เขาก็เฉยๆกันแล้ว เขาจะเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ แทนวันที่ 7 พ.ค. ทำให้ แพทองธารชอบใจมาก เพราะ แพทองธาร มีกำหนดการคลอดปลาย เม.ย. – ต้น พ.ค.นี้
โทนี่ กล่าวว่า แพทองธารกลัวว่าลงคะแนนไม่ได้ อย่างนี้ลงคะแนนได้สบายๆ ยังไปได้อีกหลายที่ ตนไม่เคยคิดว่ามีลูกคนสุดท้าย ซึ่งตนตามใจมาตลอด ไม่นึกว่าจะสู้ขนาดนี้
ดร.อนุสรณ์ ทิ้งท้ายว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ เราควรจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตยเต็มรูป วางตัวให้เป็นประเทศพัฒนาแล้ว
จากนั้นโทนี่ระบุว่า ประชาชนต้องมียุทธศาสตร์จะมอบหมายให้ใครแล้วเทไปเลย ไม่นั้นไม่สามารถเปลี่ยนประเทศได้ ไม่ ป. ก็อีก ป.หนึ่ง ก็ไม่ไหว