‘เศรษฐา-เพื่อไทย’ รับฟังปัญหาชุมชนคลองเตยสะท้อนปัญหาเวนคืนที่ดิน-สุขภาพ-การศึกษา-เศรษฐกิจ ยันดัน ศก.โต 5% ตัวแทนชุมชนขอที่ดิน 2,000 ไร่มาจัดการตนเอง ด้านผู้สมัคร ส.ส.กทม. เพื่อไทย รับปากช่วยชงปัญหากดดัน ‘เพื่อไทย’ หลังพลาด ส.ส.มา 17 ปี
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 มี.ค. 2566 ที่มูลนิธิดวงประทีป เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย นำโดย เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่ กทม. จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรคเพื่อไทย ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองเตย-เขตวัฒนา พรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางคอแหลม-ยานนาวา ลงพื้นที่เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาในพื้นที
โดยประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป ระบุกับคณะพรรคเพื่อไทย ว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคแรกที่เข้ามารับฟังปัญหาของชาวคลองเตยอย่างจริงจัง ที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินของการท่าเรือมาก่อน ซึ่งเมื่อมีการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือ ทำให้ต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการขนถ่ายสินค้าทำให้ชุมชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว สลัมคลองเตยจึงเติบโตขึ้นอย่างไร้ระบบ ไร้การพัฒนา มีความเหลื่มล้ำสูงนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ว่าที่นายกฯในอนาคตได้เดินทางมารับฟังปัญหาของคนยากคนจนที่นี่ด้วยตัวเอง จากนั้น ตัวแทนชุมชนคลองเตยได้ผลัดกันลุกขึ้นสะท้อนปัญหาต่างๆในพื้นที่ ประกอบด้วย
1.ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยจากการเวนคืนที่ดินของการท่าเรือ ประชาชนในชุมชนขอที่ดินสักแปลงจากการท่าเรือซึ่งมีที่ดินกว่า 2,000 ไร่ ขอให้คนในชุมชนเอามาจัดการตัวเอง โดยขอให้ทางการท่าเรือเปิดเวทีทำความเข้าใจกับคนในชุมชน แทนการสำรวจได้หรือไม่ ทั้งนี้ คนในชุมชนยินดีพัฒนาที่ดินแห่งนี้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ แต่ช่วยให้ประชาชนชาวคลองเตยมีที่อยู่อาศัย ให้มีทางเลือกที่ไปได้ เพราะคนในชุมชนเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำเท่านั้น ทุกคนรักคลองเตย และอยากให้ที่ดินผืนนี้ดีขึ้นเช่นกัน
2.ปัญหาด้านเศรษฐกิจ วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ไม่เพียงพอแล้วต่อครอบครัว ครอบครัวหนึ่งรัฐบาลที่แล้วขายฝันว่าจะขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท แต่ก็ทำไม่ได้ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะสามารถขึ้นค่าแรงเป็น 600 บาทได้จริงคนคลองเตยก็รู้สึกยินดี นอกจากนี้ วันนี้คนคลองเตยต้องการการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และต้องการการสร้างรายได้ให้คนในชุมชน เช่น ทำตลาดน้ำ ทำถนนคนเดิน ส่วนหาบเร่แผงลอยก็ขอให้ขายได้อย่างเป็นระเบียบ
3.เรื่องปัญหาสุขภาพ วันนี้คนคลองเตยถูกตัดสิทธิหลายอย่าง ล่าสุด ก็มีการยกเลิกการให้บริการสิทธิบัตรทอง 9 โรงพยาบาลรอบชุมชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิรักษาพยาบาลไกลจากที่อยู่มาก ขอให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาในเรื่องนี้ และขอให้มีนโยบายออกมาดูเรื่องสิทธิประกันสังคมที่ไม่ครอบคลุม และกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมกับผู้มีสิทธิประกันสังคมด้วย
4.เรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของคนคลองเตย โดยพื้นที่คลองเตยมีปัญหาเรื่องอัคคีภัยสูงมาก แต่ชุมชน และผู้ปฏิบัติงานอาสาสมัครยังขาดอุปกรณ์ช่วยเหลือไม่ว่าชุด รองเท้า รถ ไปจนถึงงบประมาณในการรักษาพยาบาลเมื่อออกไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ จึงฝากให้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายในส่วนนี้
5.เรื่องการศึกษา เชื่อว่าการศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนดีขึ้น ก่อนหน้านี้รัฐบาลพรรคไทยรักไทยมีโครงการ 1 ชุมชน 1 ทุน แต่ในปัจจุบันไม่มีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้การศึกษาของคนในชุมชนถดถอย เด็กด้อยโอกาส และคนชายขอบไม่มีสิทธิเข้าถึงการศึกษา ทำอย่างไรที่จะทำให้เขาสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ทั่วถึง ได้เดินไปโรงเรียนได้อย่างมีความสุข และได้เรียนอย่างมีคุณภาพ เพราะเด็กในชุมชนไม่มีโรงเรียนใกล้บ้านที่มีคุณภาพทัดเทียมกับที่อื่น ฝากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในอนาคต ทำให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษาและมีอาชีพที่ดีทำในอนาคตด้วย
จากนั้นเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้เราได้มาฟังเสียงของพี่น้องประชาชน เราทราบถึงความอัดอั้นตันใจและปัญหาพื้นฐานของชาวคลองเตย อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม พวกเราพรรคเพื่อไทยจึงขอรับปัญหานี้เพื่อนำไปสู่วงนโยบาย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป นอกจากนี้ วันนี้สังคมเรามีปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงมาก ตนได้ยินเรื่องค่าแรง นี่คือนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้ตนให้คำมั่นสัญญาได้ว่าหากเราได้รับฉันทามติจากพี่น้องประชาชนให้เข้ามาเป็นรัฐบาลเราสามารถทำได้สูงกว่า 600 บาทแน่นอน เพราะเราจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างน้อยปีละ 5% และเรื่องพลังงานเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญโดยเฉพาะเรื่องค่าน้ำ และค่าไฟ เราจะต้องควบคุมได้
นอกจากนี้เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หากมีอาสาสมัครลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนพวกเขาก็จะต้องได้รับการสนับสนุนสิ่งจำเป็นด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเราจะนำปัญหาที่ได้รับในวันนี้ไปเข้าวงนโยบายของพรรคเพื่อหาทางออกอย่างรอบด้าน แล้วเราจะกลับมาจัดวงพูดคุยอย่างวันนี้อีกครั้งเพื่อเอาแนวทางที่เราไปหามา มาตอบพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เราไม่อาจสัญญาได้ว่าจะทำได้ทุกข้อ แต่เราจะพยายามหาทางแก้ไขทุกเรื่องให้อย่างสุดความสามารถ ส่วนเรื่องการหาเงินเข้าประเทศ ตนเชื่อว่า หากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลและไม่ว่านายกฯจะเป็นใครก็ตาม การค้าระหว่างประเทศจะเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ และจะมีการจัดระบบเที่ยวบิน นำนักท่องเที่ยว และนำรายได้จากการท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศได้อย่างแน่นอน
นวธันย์ ยืนยันต่อผู้นำชุมชนคลองเตย ว่า พรรคเพื่อไทยไม่มี ส.ส.เขตคลองเตย มาตั้งแต่ ศิธา ทิวารี เป็น ส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย ยืนยันตนต่อสู้กับคนคลองเตยมา เราขาดการดูแลเอาใจใส่ 17 ปีมาตั้งแต่รัฐประหาร แม้ตนไม่ใช่คนเก่งที่จะบริหารเขตคลองเตย เขตวัฒนา แต่ตนจะนำนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคไปอัพเกรด ยืนยันจะเป็นตัวแทนคลองเตยไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส. ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยมองเห็นคนคลองเตย ตนจะนำปัญหาคนคลองเตยไปกดดันพรรคเพื่อไทย
จากนั้น เศรษฐา และคณะ ได้เดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชน ชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย ในชุมชนล็อก1-3 โดยมีประชาชนมอบดอกไม้และขอให้เป็นนายกรัฐมนตรี