วันนี้ (14 มี.ค.2566) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถาม นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ถึงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของพรรคการเมืองต่าง ที่เริ่มหาเสียงในขณะนี้ นายศศินกล่าวว่า ยังไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ เท่าที่ดูไม่มีใครให้ความสนใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อมเลยด้วยซ้ำ มีบางคนพยายามทำให้ทันสมัย
จริง ๆ แล้วเรื่องการจัดการพื้นที่ ที่มีทรัพยากรป่าไม้ ทั้งป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งการปลูกป่าเศรษฐกิจ ให้ครบตามแผน หรือตามเป้าหมาย ของคณะกรรมการป่าไม้แห่งชาติ ที่ต้องการให้มีป่า 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีแนวทางที่ต้องการให้ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปทำให้สำเร็จ อันนี้ไม่เห็นเลย
ส่วนนโยบายที่บอกว่าจะมารักษาป่า หรืออะไร ยังไม่เห็นใครออกมาเลย ยังไม่เห็นภาพว่านักการเมืองเขาสนใจเรื่องพวกนี้ไหม รวมถึงเรื่องทางทะเล เรื่องกัดเซาะชายฝั่ง ก็ไม่เห็นใครจะมีความรู้ หรือพูดจาให้ถูกต้อง ที่น่ากังวลก็คือ เรื่องของการประมง ที่สำคัญคือจะไปฟื้นเหตุการณ์ก่อน IUU Fishing ซึ่งยังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจนซักอย่าง จากทุกพรรค ไม่มีใครสนใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความคาดหวังอยากเห็นพรรคการเมืองทำอะไรบ้าง นายศศินกล่าวว่า อยากเห็นตัวจริง มีพรรคไหนก็ตามที่มาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม อยากให้มีคนสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้วมาใช้เป็นนโยบายหาเสียงเราจะได้เลือกถูกว่า จะเลือกพรรคไหน แต่อันนี้เห็นเลยว่าจะเลือกพรรคไหน ไม่เห็นตัวตนเลย มีพรรคไหนที่มีเจตนารมณ์มั้ย
นอกจากวราวุธ ศิลปอาชา ซึ่งทำมา 3 ปี ก็พอเห็นว่าได้อะไรบ้างนะ ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องเป็นตัวบุคคล แต่เป็นพรรค มีนักสิ่งแวดล้อมประจำพรรค แล้วโชว์ออกมาว่า อยากเห็นอะไร ซึ่งมันยังไม่มี
เมื่อถามว่า ประเทศเราจะได้เห็นนักการเมืองแบบไหน หรือรัฐมนตรีแบบไหน ที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม นายศศินกล่าวว่า จริง ๆ แล้วคนที่ต้องดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม คือรองนายกรัฐมนตรี ท่านหนึ่ง คนที่จะดูแลนโยบายสิ่งแวดล้อม จะต้องมาดูแลเรื่อง PM 2.5 ยังไง อย่างตอนนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วรุ่นหน้าจะเป็นใคร
คนที่จะมาจัดการเรื่องป่าไม้และทะเล ก็ต้องมาจัดการ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และคนนี้สำคัญมาก ถ้าการเมืองส่งแคนดิเดตรองนายกฯ ด้านสิ่งแวดล้อมมาได้ อันนี้มันจะชัดกว่า คนจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ อีก มาทำเรื่องใหญ่ระดับนโยบายได้มากกว่าด้วยซ้ำไป
