วันนี้ (15 มี.ค.2566) ที่ตลาดหน้าสมาพันธ์และลานกีฬาสมาพันธ์แฟลตคลองจั่น ซ.นวมินทร์ 6 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงจดหมายของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าวถึงบทสรุปของความขัดแย้ง แม้จะยังไม่ได้อ่านจดหมาย แต่เมื่อได้ยินคำว่า “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี เพราะพูดกันหลายครั้งแล้วในเรื่องนี้
พรรคเพื่อไทยไม่ได้ขัดแย้งกับใคร
มีความขัดแย้งกับความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม
จากนี้จนถึงเลือกตั้งพยายามเร่งที่จะกลั่นนโยบายที่โดนใจประชาชนออกมา
พร้อมเสริมว่า ขณะนี้ตนเองดูแต่พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว เพราะมีจุดมุ่งหมายที่ต้องได้คะแนนเสียงที่เยอะที่สุด ช่วงนี้เป็นเรื่องที่ต้องจัดทำนโยบายและเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วประเทศฟัง
ส่วนการอนุมัติงบประมาณเทกระจาดเป็นแสนล้านในการประชุม ครม.นัดสุดท้าย นั้น นายเศรษฐามองว่า เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ เช่นเดียวกับ การขึ้นค่าตอบแทนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน มองว่าการเพิ่มรายได้เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องดูด้วยว่าวินัยการเงินการคลังของประเทศ อยู่ตรงจุดไหน ไม่ได้ดูตัวเลข และที่สำคัญเราต้องดูด้วยว่า ภาครัฐจะนำงบประมาณมาจากไหน และจะนำงบประมาณกลับมาอย่างไรจะมีรายได้ได้อย่างไรต้องดูองค์รวมทั้งหมด
ยินดีต้อนรับ สมศักดิ์-สุริยะ
กรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐย้ายมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนยินดีต้อนรับ เชื่อว่า ส.ส ที่จะย้ายมาทุกคนมีความเชื่อในนโยบาย “ทำได้จริงคิดใหญ่” ของพรรคและคงช่วยกันไปให้จนถึงจุดมุ่งหมาย
“เผดิมชัย” พร้อมชู “วราวุธ” คนรุ่นใหม่แก้ไขปัญหาประเทศ
วันนี้ (15 มี.ค.2566) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พี่ใหญ่บ้านใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ และอดีต รมว.แรงงาน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมลุยสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส. ว่าตนและทีมว่าที่ผู้สมัคร พรรคชาติไทยพัฒนา ใน จ.นครปฐม พร้อมเต็มที่เพราะเกาะติดพื้นที่ รู้ปัญหาชาวบ้าน และแก้ปัญหาให้คนพื้นที่มายาวนาน
ไม่เน้นนโยบายประชานิยม ที่จะสร้างภาระงบประมาณในอนาคต โดยเรื่องหลักๆ ดูการแก้ปัญหาปากท้อง สวัสดิการ ความปลอดภัย
โมเดลแรงงานไทยในอิสราเอลแก้ปัญหาแรงงานปัจจุบัน
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เดินหน้าแก้ปัญหาแรงงานอย่างจริงจัง ยกกรณี สมัยแรงงานไทยที่เคยเดินทางไปทำงานอิสราเอลแล้วถูกเรียกเก็บค่าหัวคิวราคาสูงจนเป็นหนี้ จนสามารถส่งแรงงานไปทำงานและเสียค่าใช้จ่ายไม่เกินคนละ 70,000 บาท
พร้อมกล่าวว่า ตระกูลสะสมทรัพย์ พร้อมเคียงข้างสนับสนุน นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ก่อนที่ตนจะล้างมือทางการเมือง อยากเห็นคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นผู้นำแก้ปัญหาประเทศชาติ เชื่อมั่นด้วยคุณสมบัติและศักยภาพของนายวราวุธจะทำได้ดีไม่แพ้ใคร
อ่านข่าวการเมืองเพิ่ม :
“รัดเกล้า” ดัน กม.สิทธิสตรี หนุนนั่งตำแหน่งการเมืองเท่าเทียมชาย