‘เศรษฐา’ ผุดนโยบาย ศก.มหภาค กระตุ้นศก.ให้กลับมาอยู่ดีกินดี คืนสิทธิเสรีภาพประชาชน ยกเลิกเกณฑ์ทหาร จวกผู้นำไร้หัวใจ ขับคนมีศักยภาพออกนอกประเทศเพราะไม่ฟังโอวาท จวกคนบางกลุ่มมีอภิสิทธิ์คับฟ้า
วันที่ 17 มี.ค. 2566 ที่โรงยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตพรรคเพื่อไทยจัดงาน “คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เปิดนโยบายพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อบางส่วน ท่ามกลางประชาชน สมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมรับฟังกว่า 10,000 คน
โดย เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจในอนาคต ของพรรค ว่า ประเทศไทยถดถอยลงเรื่อยๆ ซึ่งตนได้เห็นมาด้วยตาตัวเอง จากการลงพื้นที่ได้เห็นเกษตรกรที่รายได้ลดลงสวนทางกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ระบบการศึกษาและแบบเรียนที่ล้าสมัย ไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และความต้องการของตลาด ความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันในสังคมไทย คนในบางกรุงเทพฯไม่ถูกยอมรับ คนบางกลุ่มมีอภิสิทธิ์ใหญ่คับฟ้า ทำผิดไม่ได้ผิด ซ้ำยังคงมีหน้ามีตาในสังคม
“ผมเห็นผู้นำที่ไร้หัวใจ ขับไล่ประชาชนของตัวเองที่มีศักยภาพ ขับไล่คนที่รักประเทศ คนที่ตั้งใจทำให้ประเทศของตัวเองดีขึ้น แต่กลับถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินที่เขาเกิด แค่เพียงว่าคนเหล่านี้ไม่อยู่ภายใต้โอวาท” เศรษฐา กล่าว
เศรษฐา ระบุว่า ภารกิจของพรรคเพื่อไทยคือ ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจให้กลับมาอยู่ดีกินดี นำธุรกิจที่ไม่เสียภาษีนอกระบบเข้าระบบ 1 ล้านล้านบาท ปราบมาเฟียตำรวจรับส่วย คนจนต้องไม่ถูกรังแก เพิ่มโอกาสทำมาหากิน ผ่านการใช้ บล็อกเชน สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล เปิดประตูการค้าต่างประเทศ สร้างความสัมพันธ์ในต่างประเทศให้เพิ่มขึ้น การท่องเที่ยวเติบโต 2 เท่า
หนังสือเดินทางไทย ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถไปได้หลายประเทศ นำเงินจากต่างประเทศเข้ามาฝากในไทย เป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยี การเงินใหม่ ของอาเซียน ด้านสิทธิเสรีภาพ เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นระบบสมัครใจ เพิ่มสิทธิความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้เกิดความเสมอภาค แก้กฎหมายคืนสิทธิให้กับคนทุนกลุ่ม ทุกคนต้องมีสิทธิและเสียงเท่ากัน ความยุติธรรมต้องยุติธรรม เพื่อขจัดสังคมเส้นสายให้หมดไป
เศรษฐา ยังย้ำทิ้งท้ายว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำให้ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ก่อนอวยพรให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็น ส.ส. ของประชาชน และทำให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล