วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์ ถนนวิภาดีวดี-รังสิต พรรคพลังปวงชนไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 เพื่อรายงานการดำเนินกิจการของพรรค รับรองงบการเงินในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แทนชุดเก่าที่พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ เนื่องจากหัวหน้าพรรคลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งพรรคจะต้องจัดการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายใน 60 วัน และเลือกตั้ง กรรมการสรรหาผู้สมัครลงรับเลือกตั้งฯ ชุดใหม่ แทนชุดเก่าที่หมดวาระการดำรงตำแหน่ง พร้อมกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดเก่า ทั้งนี้ เป็นการจัดทัพคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป ในปี 2566
โดยมี กรรมการบริหารพรรค เท่าที่มีอยู่ กรรมการสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด สมาชิกพรรคที่แสดงความจำนงค์จะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. ทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน กว่า 300 คน
ดำเนินการประชุมโดย นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ รักษาการนายทะเบียนสมาชิกพรรค ปฏิบัติหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค นางสาวธัญลักษณ์ ศรีทา รักษาการเหรัญญิกพรรค นายเอก จาดดำ รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายสุชาติ ดีจันทร์ รักษาการกรรมการบริหารพรรค นายชำนาญ เพรชศรี ผู้อำนวยการพรรค และคณะทำงาน กว่า 30 คน ผลจากการประชุม ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากรับรองงบการเงินประจำปี 2565 และมีมติด้วยเสียงข้างมาก รับรองรายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2565 โดยไม่มีผู้คัดด้าน นอกจากนี้ยังมีวาระการประชุมเพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ประชุมมีมติด้วยเสียงข้างมากกำหนดจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรครวมทั้งสิ้น จำนวน 14 ตำแหน่ง และให้มีการเลือกตั้งด้วยวิธีการลงคะแนนลับ ซึ่งคณะผู้จัดงานได้ยืมเครื่องลงคะแนนเสียงแบบอิเลคทรอนิกส์ จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร มาใช้ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จำนวน 8 คูหา (2) ชุด ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้การลงคะแนนเสียงเป็นไปด้วยความโปร่งใส่ รวดเร็ว ประหยัดเวลาในการลงคะแนนเสียง โดยเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำกรุงเทพมหานครให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
ผลการลงคะแนน ปรากฏดังนี้
ตำแหน่งหัวหน้าพรรค
ที่ประชุมลงคะแนนเลือก นายเอก จาดดำ
ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค จำนวน 7 ตำแหน่ง
คนที่ 1. นายเสรี พิชัยรัศน์
คนที่ 2. นายฑิฏิวุฒิ ศรีมานพ
คนที่ 3. นายกอเดช ยอดดำ
คนที่ 4. พล.อ.โชติอนันต์ปรีชา ทรัพย์หิรัญ
คนที่ 5. นายสุชาติ ดีจันทร์
คนที่ 6. นายประจักษ์ จันทร์เดช
คนที่ 7.นายเด่นณรงค์ เที่ยงแท้
ตำแหน่งเลขาธิการพรรค จำนวน 1 ตำแหน่ง
ที่ประชุมเลือก นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ
ตำแหน่งเหรัญญิกพรรค จำนวน 1 ตำแหน่ง
ที่ประชุมเลือก นางสาวธัญลักษณ์ ศรีทา
ตำแหน่งนายทะเบียนสมาชิกพรรค 1 ตำแหน่ง
ที่ประชุมเลือก นางสาววิยะดา ผลประสาท
ตำแหน่งกรรมการบริหารอื่นของพรรค จำนวน 3 ตำแหน่ง
คนที่ 1. ดร.องอาจ ทรัพย์มาก
คนที่ 2. นายไกรสีห์ จันทร์ศิริฉายา
คนที่ 3. นางสกาวรัตน์ ลูนจักร
การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งชุดใหม่ จำนวน 11 ตำแหน่ง ประกอบด้วย
สัดส่วนกรรมการบริหารพรรค จำนวน 4 ตำแหน่ง
- นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ เลขาธิการพรรค
- นายประจักษ์ จันทร์เดช รองหัวหน้าพรรค
- นายชำนาญ เพชรศรี ผู้อำนวนการพรรค
- นางสาววิยะดา ผลประสาท นายทะเบียนสมาชิกพรรค
สัดส่วนกรรมการสาขาพรรค จำนวน 4 ตำแหน่ง
- นางสาว ปุณยนุช ชูช่วย กรรมการสาขาพรรค
- นางสาวนงค์รักษณ์ ถิวะพร กรรมการสาขาพรรค
- นายพสิษฐ์ นันทศิวะพัฒน์ กรรมการสาขาพรรค
- นางแสงจันทร์ พิระพัฒนพงษ์ กรรมการสาขาพรรค
สัดส่วนตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และสมาชิกพรรค จำนวน 3 ตำแหน่ง
- นางเพ็ญศิณี ตะเภาทอง ตัวแทนพรรคฯ
- นายชุติพงศ์ มุสตอฟาดี ตัวแทนพรรคฯ
- นายศิริพล เดชาทะสอน ตัวแทนพรรคฯ
นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ เลขาธิการพรรค กล่าวภายหลังประชุมว่า พรรคพลังปวงชนไทยมีความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่า 193 เขตเลือกตั้ง และผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนไม่น้อยกว่า10 ที่นั่ง และพร้อมที่จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล กับทุกพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
นายพันธุ์ศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ต้องการเข้าไปร่วมผลักดันนโยบายที่พรรคเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งได้รับความเดือนร้อนแสนสาหัสจากการบริหารงานที่ผิดพลาดล้อมเหลวของรัฐบาล ชุดก่อน พรรคพลังปวงชนไทย มุ่งเน้นที่จะสร้างสวัสดิการให้กับคนไทยทุกระดับ ด้วยการผลักดัน ให้มีกฎหมาย “สวัสดิการประชาชนเกิดจากการใช้จ่ายประจำวัน” (Cash Back)หมายความว่า เป็นการแบ่งปันทรัพยากรของชาติให้กับเจ้าประเทศอย่างแท้จริง ต่อไปนี้หากเกิดการซื้อ จะมีเงินคืนไว้เป็นสวัสดิการ เมื่ออายุครบ 60 ปีเป็นผู้สูงอายุสามารถเบิกเงินสวัสดิการ ลงทุนประกอบอาชีพ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวหาความสุขได้ โดยไม่ต้องกังวนว่าจะมีลูกหลานมาเลี้ยงดูหรือไม่? เป็นการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจน-คนรวย ภายใน 10 ปี เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกระดับให้คนไทยมีความมั่งคั่ง มั่นคง อย่างยั่งยืน ดั่งสโลแกน “กินอิ่ม นอนอุ่น ทุนมี หนี้หมด” พร้อมทั้ง ส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนทุกประเภทที่มีในปัจจุบัน ให้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงอย่างแท้จริงด้วยการ ผลักดันให้มีการแก้ไข พรบ.กสทช ที่ได้ยื่นขอแก้ไขไว้ต่อสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ให้ประสบผลสำเร็จ ด้วยนโยบาย “วิทยุชุมชนต้องไปต่อ” ด้านการศึกษา พรรคพลังปวงชนไทยเน้นย้ำเรื่องการศึกษาของคนไทย ขั้นต่ำต้องจบปริญญาตรี ด้วยการเรียนฟรี แบบฟรีจริง ๆ ไม่ใช่ ฟรีแบบแอบแฝงอย่างปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ยังไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พรรคพลังปวงชนไทยจะส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย ให้เป็นสะพานเทียบระดับการศึกษาให้ปริญญาตรีตามสายอาชีพ และเพื่อให้มีโอกาสได้ต่อยอดการศึกษาในระสูงขึ้นไป ฟรี! ด้านสาธารณะสุข เพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อหัวประชากรอีก 30 % และตัดลดขั้นตอนการใช้บริการสาธารณะสุขของรัฐให้ง่ายขึ้นและสะดวกต่อการใช้บริการของประชาชน ในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค นายพันธุ์ศักดิ์ กล่าว….