วันนี้ (24 มี.ค.2566) นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ มีบุคลากรคุณภาพจำนวนมาก ทั้งผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคมาตั้งแต่ปี 2561
ผู้ที่เข้ามาร่วมพัฒนาพรรคระหว่างทาง และผู้ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับพรรค ทุกคนต่างมีความสามารถที่หลากหลายอันเป็นประโยชน์ต่อพรรค และต่างมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน
นฤมล กล่าวต่อว่า สำหรับตนเองมีความตั้งใจมาทำงานการเมือง เพราะปรารถนาที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่เสียภาษีส่งแหม่มเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เด็กยากจนคนหนึ่งที่ต้นทุนชีวิตต่ำมาก ได้มีโอกาสที่ดีในชีวิตมากมายทุกวันนี้ ก็เพราะสอบชิงทุนรัฐบาล ได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ดีทั้งปริญญาโทและเอก
จากนั้นกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ประจำอยู่สถาบันบัณฑิพัฒนบริหารศาสตร์ร่วม 23 ปี จนได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น ศาสตราจารย์
จนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตนได้รับโอกาสจากพรรคพลังประชารัฐให้ได้เข้ามาทำงานการเมือง จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ด้วยความหวังและความตั้งใจที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาทำประโยชน์ตอบแทนผู้มีพระคุณ ซึ่งคือพี่น้องประชาชนผู้เสียภาษีส่งนักเรียนทุนไปร่ำเรียนอย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า
การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ตนเองได้รับโอกาสจากผู้บริหารพรรคให้ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 เป็นผู้หญิงคนเดียวใน 10 ลำดับแรก โดยที่ไม่ได้ร้องขอจากท่านใดเลย แต่เป็นความเมตตาล้วน ๆ ของผู้บริหารพรรค ณ ขณะนั้น ที่เห็นเราทุ่มเททำงานให้พรรคตั้งแต่ยังตั้งไข่เมื่อ ม.ค.2561 ทั้งที่ ตนเองเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่ใช่เด็กบ้านใหญ่ ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนเองอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทางการเมืองได้เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้น ๆ บ้าง หากเราที่เคยได้รับโอกาสมาแล้ว ไม่เสียสละ คนใหม่ ๆ ก็จะแทบไม่มีโอกาสที่จะได้ขึ้นมา จึงได้แสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคว่าขอสละสิทธิที่จะได้รับการเสนอชื่อในบัญชี ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ฉะนั้นวันนี้ ทางพรรคจึงจะมีการพิจารณาบัญชีรายชื่อกันใหม่อีกครั้ง
นฤมล กล่าวต่อว่า ตนพูดเสมอว่า ถึงเวลาพรรคพลังประชารัฐต้องผลัดใบ ให้ “พลังใหม่” ได้เข้ามาทำงาน
ครั้งนี้อาจจะได้ผลัดหนึ่งใบ ได้เห็นพลังใหม่หนึ่งใบผลิดอกออกผล ครั้งหน้าก็อาจจะได้ผลัดเพิ่มอีกหลายใบ ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จึงจะเติบโตอย่างเข้มแข็งและสวยงาม
สำหรับตนเอง การทำงานทางการเมืองไม่ได้มีเพียงการทำงานในสถานะ ส.ส. เพียงเท่านั้น ยังมีงานอีกมากมายหลายรูปแบบที่เราสามารถช่วยพรรค ช่วยผู้สมัคร และรับใช้พี่น้องประชาชนได้
ที่สำคัญที่สุด คือ อุดมการณ์ทางการเมือง เพราะสำหรับตน การทำงานการเมือง คือ การเสียสละ ไม่ใช่การเอาชนะ และไม่ใช่การยึดติดในตำแหน่งแห่งที่ แหม่มเชื่อเสมอว่า เมื่อเราไม่ยึดติด เราจะมีอิสระทางความคิด ซึ่งนำไปสู่อิสระในการตัดสินใจในทุก ๆ เรื่องเพื่อส่วนรวม