วันนี้ (29 มี.ค.2566) ตัวแทนจากพรรคการเมือง ร่วมอ่านจรรยาบรรณหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพุทธศักราช 2566 นำโดยนายธงชาติ รัตนวิชา ผู้แทนพรรคประชาขาติในฐานะผู้มีอาวุโสสูงสุด ในพิธีลงนามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง ก่อนที่ตัวแทนพรรคการเมืองจะลงนามตามลำดับตัวอักษร ตามด้วยสักขีพยาน
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการบริหารสถาบันปรีดีพนมยงค์ และภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ย้ำว่า จรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ผ่านการหารือร่วมกันของตัวแทนพรรคการเมือง และภาคีเครือข่ายประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายตรงกันในการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่โปร่งใส เพราะการเลือกตั้งในปี 2566 ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการสืบทอดระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เปลี่ยนผ่านหลังการรัฐประหาร 2557 และการมีประชาธิปไตยแบบกึ่งสมบูรณ์
ขณะที่การเลือกตั้งในครั้งนี้ก็ยังมีข้อกังวลว่าเสียงของประชาชนอาจจะไม่มีความหมาย เพราะขอบเขตอำนาจของ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้งและสัญญาที่พรรคการเมืองลงมาร่วมกัน ถือเป็นการกำหนดข้อปฏิบัติในการหาเสียงและป้องกันการทำลายความชอบธรรมของผลการเลือกตั้ง
นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า การร่วมลงนามในจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เป็นนิมิตรใหม่อันดีที่แสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองร่วมกันทำให้การเลือกตั้ง ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ กกต.ที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนเครือข่ายประชาชนสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ระบุว่า รัฐประหารปี 2557 นับเป็นจุดด่างพร้อยครั้งใหญ่ของการเลือกตั้งและประชาธิปไตยไทย และการเลือกตั้งในปี 2562 ยังเป็นการเลือกตั้งที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลทหาร ทำให้ประชาชนเกิดความคลางเคลงใจ โดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี และการทำหน้าที่ของ กกต.
พร้อมย้ำว่า เครือข่ายประชาชนสังเกตการเลือกตั้งจะเชิญชวนให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมเป็นอาสาสมัครสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อป้องกันการโกงเลือกตั้ง และทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามหลักสากล ทั้งนี้ขอให้รัฐบาล หน่วยงานของรัฐสร้างบรรยากาศให้เป็นประชาธิปไตย เช่น คุัมครองขอให้ประชาชนมีเสรีภาพอย่างเต็มที่โดยไม่ถูกคุกคาม
สำหรับจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกต้้งปี 2566 และสัญญาที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ร่วมลงนามเป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะเคารพการตัดสินใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้งและเที่ยงธรรม จะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ตามหลักการที่เห็นพ้องกัน 5 ข้อ คือ การเคารพ และปฏิบัติตามบทบัญญัติและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญกฎหมายและระเบียบคำสั่งของ กกต.
ไม่กระทำการใด ๆ ที่ทุจริตต่อการเลือกตั้งและการซื้อเสียง ธนาคารตรงและทางอ้อม รวมทั้งไม่ใช้กลไกหรือทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ในการทำเสียงหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง
รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์ คำนึงถึงความละเอียดอ่อนและหลากหลายทางเพศภาวะ ไม่ข่มขู่คุกคาม สร้างความหวาดกลัว
ปฏิเสธและไม่สนับสนุนการกระทำใด ๆ ที่ปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงหรือใส่ร้ายด้วยความคิดให้ผู้อื่นฟังเสียงชื่อเสียง การใช้ข่าวปลอม หลอกลวงสร้างความเข้าใจผิดหรือความได้เปรียบทางการเมือง
ธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของพรรคการเมือง ในฐานะสถาบันการหน่วยที่สำคัญโดยนำเสนอนโยบายที่มาจากการมีส่วนร่วมของสมาชิกและประชาชนรับผิดชอบต่อนโยบายข้อเสนอ
ทั้งนี้ตัวแทนพรรคการเมืองที่มาร่วมลงนามจรรยาบรรณรวม 36 พรรค เช่น พรรคก้าวไกล เพื่อไทยชาติไทยพัฒนา ไทยสร้างไทย และเป็นที่สังเกตว่าไม่มีตัวแทนจาปพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมการลงนามในครั้งนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชป.ยังไม่ลงตัว เส้นใคร? ได้ไปต่อ เซฟโซน (ปาร์ตี้ลิสต์)
ประชาธิปัตย์” เคาะชื่อ “จุรินทร์” ชิงนายกฯ ชื่อเดียว
“อดิศักดิ์” ถอนตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ขอพิสูจน์ปมทุจริตสอบ ตร.