‘วราวุธ’ ลั่นเมืองสุพรรณ ‘ชาติไทยพัฒนา’ ไม่แบ่งใคร อยากมาให้เปลืองแรงก็ลองดู มองบางพรรคแคนดิเดตนายกฯ ไม่ลง ส.ส. เป็นสิทธิส่วนตัว รธน. ไม่ได้ห้ามไว้
วันที่ 29 มี.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงข่าวถึงรายชื่อของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ที่ได้ผ่านการคัดสรรจากคณะกรรมการสรรหาพรรคชาติไทยพัฒนา แบบแบ่งเขต 26 จังหวัด 50 เขต ตนได้กำชับให้ลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด ส่วนผู้สมัครหน้าใหม่จะต้องเร่งประสานงานกับแกนนำของผู้สมัครในพื้นที่
“แต่ที่สำคัญไม่ว่าจะบัญชีรายชื่อหรือแบ่งเขต จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย ตลอด 47 วันที่เหลือ จะต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คำพูดที่ส่อผิดกฎหมายจะต้องระวัง เพราะถูกจับตามองจากฝ่ายตรงข้าม”
ส่วนวันที่ 31 มี.ค.นี้ จะมีการปฐมนิเทศผู้สมัครทุกคน เพื่อทำความเข้าใจกับระบบบัญชีค่าใช้จ่ายในการหาเสียง เพื่อส่งต่อให้ คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบการใช้งบประมาณทั้งหมด
เมื่อถามว่า ส.ส.นครปฐม และสุพรรณบุรี มีการแบ่งเขตเพิ่มขึ้น มีข้อกังวลใจอะไรหรือไม่ วราวุธ ย้ำว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะเรามีผู้สมัครอยู่ในจังหวัดอยู่แล้ว แม้จะมีการแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่เท่ากัน แต่ผู้สมัครก็จะมีความคุ้นเคยกับการแบ่งเขต และคุ้นเคยกับพื้นที่
ส่วนพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี มีหลายพรรคที่พยายามจะเข้ามาตีพื้นที่ พรรคชาติไทยพัฒนาจะตั้งรับอย่างไร วราวุธ เผยว่า เราไม่มีปัญหากับพรรคใดพรรคหนึ่ง แม้พรรคอื่นจะหมายมั่นปั้นมือ เราะเราก็มีการหมายมั่นปั้นมือที่ใหญ่กว่าเหมือนกัน ถ้าอยากจะเอาสรรพกำลังของพรรคมาเปลืองที่ จ.สุพรรณบุรี เราก็ไม่ว่า
วราวุธ ยังกล่าวถึงการจัดอันดับบัญชีรายชื่อ 1-10 ตามความเหมาะสมและศักยภาพการทำงานให้กับพรรค รวมถึงอัตราสัดส่วนของสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เพราะสังคมไทยในปัจจุบันความเท่าเทียมทางเพศเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังเรียกร้อง พรรคชาติไทยพัฒนามีผู้สมัครที่เป็นผู้หญิง 4 คน ถือว่าเป็นการสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะเดินไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ว่าจะเพศใดหรือสถานะใด
ส่วนการมีบางพรรคการเมือง มีแคนดิเดตนายกฯ ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต วราวุธ มองว่า เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่ละบุคคลที่จะพิจารณา ทุกคนมีความคิดที่ต่างกัน การเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคนว่าจะดำเนินการเช่นไร ไม่มีกฎหมายบังคับ แต่ในส่วนของชาติไทยพัฒนา แคนดิเดตนายกฯ และผู้สมัครบัญชีรายชื่อเบอร์หนึ่งคือคนเดียวกันก็คือตนเอง
“ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ระบุว่า นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่พรรคการเมืองเป็นตัวกำหนดแคนดิเดตนายกฯ แต่เป็นหน้าที่ของประชาชน แต่แนวทางนโยบายของเราต้องการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะได้ครอบคลุมทุกฝ่าย และผลจะออกมาเองว่าจะเลือกอย่างไร” วราวุธ กล่าว
