ถล่มทลาย! “สมศักดิ์” ขนทัพใหญ่ ปราศรัยนครสวรรค์ หวังกวาดเก้าอี้คืน อ้อนขอแลนด์สไลด์ ตัดมือ ส.ว.โหวตนายกฯ ณัฐวุฒิ ชี้ ควรพอได้แล้ว สุธรรม เหน็บ ประยุทธ์ ไปไหนมีแต่คนไม่รัก ชู หากไม่ถูกยึดอำนาจ เป็นคนเด่นของเอเชียแล้ว
12 เมษายน 2566 สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย สุธรรม แสงประทุม แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย สัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ คณะกรรมการทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย วิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.หลายสมัย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย และอดีตเลขานุการ รมว.ยุติธรรม และอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ตลาดรวยทรัพย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อปราศรัยช่วย กวี อัศวรัตน์ ผู้สมัครส.ส.นครสวรรค์ เขต 1 เบอร์ 6 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 3,000 คน
โดยสุธรรม กล่าวว่า เท่าที่ตนเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เวลาไปไหนมีแต่คนไม่รัก ทำให้มืดมน อาจเป็นเพราะสร้างหนี้มหาศาล ต่างจากอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ไปไหนมีแต่พรหมแดงต้อนรับ เพราะได้นำประสบการณ์ชีวิต มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนอยู่ดีกินดี ทำให้พรรคเพื่อไทยวันนี้ ที่มีรากฐานมาจากไทยรักไทย ได้มีความภาคภูมิใจมานำเสนอนโยบายดีๆที่สามารถทำให้สำเร็จได้เหมือนในอดีตอย่างแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทย มีความตั้งใจจะคืนความสุขด้วยการพลิกฟื้นเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก เหมือนที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ ก่อนกำหนด ซึ่งถ้าไม่ยึดอำนาจก่อน ก็จะเป็นคนเด่นของเอเชียแล้ว
สมศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจตกต่ำลงจำนวนมาก ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ในชุมชน ด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ใช้ได้ในรัศมี 4 กิโลเมตร เพื่อทำให้ร้านค้าในชุมชนอยู่ได้ ทำให้ขณะนี้ พรรคการเมืองต่างอิจฉานโยบายนี้ เพราะไม่สามารถคิดได้แบบเรา ดังนั้น พี่น้องประชาชน ต้องช่วยกันสนับสนุน จึงจะได้ใช้นโยบายนี้ แต่พี่น้องประชาชน ต้องช่วยกันเลือกทั้งคน และพรรคให้เกิดแลนด์สไลด์ เพื่อไม่ต้องพึ่งพาเสียงของ 250 ส.ว. เพราะตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ด้วย จึงต้องใช้ถึง 376 เสียงในการตั้งรัฐบาล แต่ถ้าพี่น้องประชาชน อยากได้นโยบายดีๆ ก็สามารถช่วยกันเลือกให้ชนะเสียงส.ว.ได้เลย และจะถือเป็นการได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนโดยตรง โดยจากการลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ตนมั่นใจว่า กวี และ น.ส.ชุติมา ได้เป็นผู้แทนแล้ว เพราะกระแสตอบรับดีมาก
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ตนเห็นชาวนครสวรรค์ จะช่วยกันเปลี่ยนรัฐบาล เอาประยุทธ์กลับบ้าน แล้วเอาพรรคเพื่อไทย มาบริหาร ซึ่งเรื่องนี้ คนตัดสินใจแบบนี้ทั่วประเทศแล้ว เพราะตนไปปราศรัยมาทั่ว คนก็บอกพอแล้ว เข็ดแล้ว โดยจะเอาแต่พรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 เท่านั้น แต่วันนี้ พรรคเพื่อไทย มีคู่แข่งที่ตุนไว้แล้ว 250 เสียง เราจึงต้องช่วยกันแลนด์สไลด์ แต่ถ้าแข่งกันแบบปกติ เราชนะตั้งแต่ในมุ้งแล้ว เพราะปี 2548 เราทำได้ 377 เสียงมาแล้ว และยิ่งวันนี้ พรรคเพื่อไทย มีสมศักดิ์ ซึ่งเป็นเสมือนเข็มทิศชี้ว่า ใครจะเป็นรัฐบาล เพราะสมศักดิ์ จบเอกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลทุกสมัย
“8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล ได้สร้างความลำบากให้ประชาชน เป็นหนี้อย่างเดียว เพราะกู้แล้ว กู้อยู่ กู้ต่อ ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งพี่น้องประชาชน เริ่มเดินวัดระยะทางกันแล้วว่า 4 กิโลเมตรใช้อะไรได้บ้าง โดยถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย จะได้แท็บเล็ตไปโรงเรียน แต่ถ้าไปเลือกภูมิใจไทย เผลอๆได้ถือบ้องกัญชาไปโรงเรียน ส่วนเก้าอี้นายกฯ ผมยืนยันอีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทย ต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น ไม่มีการยกเก้าอี้ให้ใคร พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องฝัน พล.อ.ประวิตร ไม่ต้องเพ้อ ต้องพอได้แล้ว เพราะถ้าอดีตนายกฯ ทักษิณ มีเวลา 8 ปี ไม่รู้ประเทศไปถึงไหนแล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี จะส่งยางพาราไปขายดาวอังคาร” ณัฐวุฒิ กล่าว
สัตวแพทย์ชัย กล่าวว่า ตั้งแต่พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท ได้กระเพื่อมทั้งแผ่นดิน โดยตนในฐานะดูแลเศรษฐกิจของพรรค ก็อดคำนวนไม่ได้ว่า อย่างในพื้นที่บ้านไร่ มีประชาชนที่จะได้สิทธิ 10,000 คน จะทำให้มีเงินไหลเข้ามาในชุมชนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทันทีที่นโยบายนี้กดปุ่ม ก็จะมีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจทันที รวมถึงเวลาหมุนเวียนในท้องถิ่น จะมีอย่างน้อย 3 รอบ หรือเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท โดยอาจเป็นครั้งแรก ที่มีเงินหมุนเวียนเป็นร้อยล้านบาท แต่ถ้าทำแบบพรรคอื่น ตนมองว่า เหมือนเป็นการหยอดน้ำข้าวต้ม เพราะไม่ได้ผล แต่ของเราอัดทีเดียวให้ฟื้นลุกขึ้นมาเลย ซึ่งทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทย มีดีเอ็นเอของพรรคไทยรักไทย เต็มไปหมด จึงสำเร็จเหมือนอดีตแน่นอน
ก่อแก้ว กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ทำให้พี่น้องประชาชน มีเงินใช้อยู่ดีกินดี เพราะราคาสินค้าเกษตรสูง แต่ก็มาถูกยึดอำนาจ ทำให้พี่น้องเกษตรกรต้องลำบาก เพราะไม่มีใครดูแลเท่าที่ควร ซึ่งบางคนไม่สามารถส่งลูกเรียนได้ แต่ตอนนี้ พรรคเพื่อไทย หัวใจคือ พี่น้องประชาชนนั้น ต้องการให้พี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้น จึงมีนโยบายดีๆจำนวนมาก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น แต่ตนขอเตือนว่า ถ้าพี่น้องประชาชน ยังใช้คนเดิม ก็จะเจ๊งแบบเดิม
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สมศักดิ์ พร้อมด้วย สุธรรม และสัตวแพทย์ชัย ได้ลงพื้นที่ อบต.บ้านไร่ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อปราศรัยช่วยน.ส.ชุติมา เสรีรัฐ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 เบอร์ 3 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักเช่นกัน มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 500 คน ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สมศักดิ์ พร้อมด้วยสุธรรม และสัตวแพทย์ชัย ได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพบปะกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย เขต 1 นายอัณณพ อารีย์วงสกุล เบอร์ 5 เขต 2 สุรเชษฐ์ ชัยโกศล เบอร์ 9 เขต 3 นายองอาจ วชิรพงศ์ เบอร์ 9 และนายชวกร ศรีราชา ผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง เขต 2 เบอร์ 4 โดยได้มีการหารือถึงแนวทางการสื่อสารนโยบายของพรรคเพื่อไทย กับพี่น้องประชาชน ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้แนะนำให้ผู้สมัครทุกคนตั้งแกน เพื่อช่วยสื่อสารกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่มีพรรคใด มีนโยบายที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทย ทำให้บางนโยบายของเราถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดี ดังนั้น ขอให้ผู้สมัครทุกคนช่วยกันสื่อสาร และทำงานให้หนักอย่างต่อเนื่อง
สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ผู้สมัครของเรา มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งในหลายเขตแล้ว เพราะหลายนโยบายของพรรคเพื่อไทย ได้โดนใจพี่น้องประชาชน เนื่องจากจะสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ แต่ผู้สมัครทุกคนอย่าประมาท ซึ่งต้องเร่งนำเสนอกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะประเด็นการเลือกให้เกิดแลนด์สไลด์ เพราะรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ 250 ส.ว. ร่วมเลือกนายกฯ กับ ส.ส. 500 คนด้วย จึงต้องใช้เสียงเกินครึ่ง คือ 376 ถึงจะตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้น ต้องเร่งอธิบายกับพี่น้องประชาชนให้เข้าใจ จะได้เลือกพรรคเพื่อไทยให้เกิดแลนด์สไลด์ และจะได้นโยบายดีๆของพรรคเพื่อไทย