วันนี้ (16 เม.ย.2566) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า หากดูผลโพลนิด้าครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ครั้งแรก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนร้อยละ 38.20 พอเป็นครั้งที่ 2 ลดลงเป็นร้อยละ 35.70
ขณะที่ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล ได้คะแนนร้อยละ 15.75 เพิ่มมาเป็นร้อยละ 20.25
นอกจากนี้โพลของนิด้ายังสอดรับกับความเห็นของโพลอื่นๆ ในทิศทางที่ว่าคะแนนของพรรคก้าวไกลดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
กระแสโพลชี้ก้าวไกลกำลังขาขึ้น
รังสิมันต์ บอกว่า แม้ พิธา ไม่ได้อันดับ 1 ในโพลของนิด้า แต่อย่าลืมว่าที่ผ่านมาเคยมีผลสำรวจโพลจากสำนักอื่นๆ ให้ พิธา ขึ้นเป็นอันดับ 1 ที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นโพลที่สำรวจในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักของพรรค หรือโพลที่ทำร่วมกันของสำนักข่าวมติชนกับเดลินิวส์
ในเวลาไม่ถึง 30 วันนี้ ก้าวไกลยังสามารถเบ่งพลัง ให้มันขยายเติบโตได้มากขึ้น
สวนทางกับพรรคอื่นที่อาจคงที่หรือมีแนวโน้มลดลง
ดังนั้น ก้าวไกลอยู่ในช่วงขาขึ้น
กระแสตอบรับจากพี่น้องประชาชนก็สอดคล้องกับคะแนนของโพลสำนักต่างๆ ด้วยเช่นกัน โดยพบว่าประชาชนเปิดใจรับนโยบายและจุดยืนของพรรคก้าวไกลมากขึ้น การขึ้นเวทีดีเบตของ พิธาและสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีความโดดเด่นจากพื้นฐานนโยบายพรรคที่ดี จึงช่วยให้พรรคได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น
การแสดงจุดยืนของพรรคก้าวไกล การปฏิเสธ 3 ป. ไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ
เป็นจุดที่ทำให้เห็นว่า เรามาถูกทางแล้ว
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลได้พิสูจน์ผลงานการเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพตลอด 4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสร้าง 300 นโยบายเพื่อการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงทำให้ได้รับความนิยมชมชอบจากพี่น้องประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่สนคำค่อนขอด “นายกฯ โซเชียล”
สำหรับความเห็นที่บอกว่า พิธา เป็นได้แค่ “นายกฯ โซเชียล” เพราะมีคะแนนนำแค่ในโพลหรือกระแสดีเพียงในสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้น โฆษกพรรคก้าวไกลให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า พี่น้องประชาชนจำนวนมากมองว่าโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงความเห็น และหลายคนก็แสดงความเห็นผ่านช่องทางนี้มากกว่าในชีวิตประจำวัน
เราโดนค่อนขอดเรื่องนี้มาโดยตลอด
แต่คนที่ใช้โซเชียลมีเดียก็คือประชาชน
โซเชียลมีเดียก็เป็นกระจกสะท้อนถึงความคิดพี่น้องประชาชน
นายรังสิมันต์ บอกว่าคำค่อนขอดดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ขนาดโดนค่อนขอดขนาดนี้ พรรคก็ได้ ส.ส.มากกว่า 80 ที่นั่ง และถ้าหากไม่เจอสูตรคำนวณพิสดารของ กกต. พรรคอนาคตใหม่ต้องได้ ส.ส. 88 คน เป็นพรรคอันดับ 3 ที่อาจสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้น ถึงแม้โดนค่อนขอดอย่างไร ทางพรรคก้าวไกลก็จะทำงานหนักต่อไป
มั่นใจ ก้าวไกล เจาะ ส.ส.ภาคใต้ได้แน่นอน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ ส.ส. จากพื้นที่ภาคใต้เลย ดังนั้น พื้นที่นี้จึงเป็นพื้นที่ท้าทายของพรรคก้าวไกล แต่รอบนี้ทางพรรคมีความมั่นใจว่าก้าวไกลจะได้ ส.ส. จากพื้นที่ภาคใต้แน่ๆ แต่ยังไม่ขอเอ่ยชื่อเขตหรือจังหวัด เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ ส.ส. ในพื้นที่จะเสียเปรียบ และต้องทำงานหนักมากขึ้น
ค่อนข้างมั่นใจว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในภาคใต้ครั้งสำคัญ
ยิ่งเป็นบัตร 2 ใบ ยิ่งทำให้พี่น้องประชาชนมีทางเลือก และโอกาสการตัดสินใจมากขึ้น
ผมมีลุ้น 2 ข้อ คือ เราต้องมี ส.ส.เขตจากภาคใต้ และลุ้นคะแนนบัญชีรายชื่อของภาคใต้
ที่อาจมีความโดดเด่นเป็นพิเศษในรอบนี้
อ่านข่าวเพิ่ม :
นิด้าโพล หนุน “อุ๊งอิ๊ง” นั่งนายกฯ “พิธา” รั้งอันดับ 2 – “ประยุทธ์” ที่ 3