‘เศรษฐา’ ขึ้นรถแห่หลักสี่ ช่วย ‘สุรชาติ เทียนทอง’ ขวัญใจรุ่นใหญ่ มีแต่คนเรียกว่า ‘นายกฯ’ อัด ‘รัฐประหาร’ ทำประเทศถอยหลัง ย้ำนโยบายพรรคเพื่อไทย ไม่หยอกน้ำข้าวต้ม
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ขึ้นรถแห่ปราศรัยที่เคหะชุมชนทุ่งสองท้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่ สุรชาติ เทียนทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่เศรษฐาเดินทางมาถึงเวที ชาวหลักสี่จำนวนมากที่รอฟังการปราศรัย ต่างเข้ามาห้อมล้อมขอถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก โดยเศรษฐาเดินไปทุกจุดที่มีประชาชนรอต้อนรับเพื่อที่จะได้ทักทายกันอย่างทั่วถึง บางคนถึงกับเรียกเศรษฐาว่า ‘นายกฯ’ บางคนทักว่า ‘ตัวจริงสูงมาก’ เป็นต้น
จากนั้นเศรษฐา ขึ้นรถปราศรัย ระบุว่าประเทศบอบช้ำมามากจาก 8-9 ปีที่ผ่านมา ตนเองในฐานะที่มาจากภาคธุรกิจพบว่าผู้ให้กู้สินเชื่อมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ชาวบ้านเป็นหนี้เยอะมาก นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดี พรรคเพื่อไทยจะดูแลเรื่องภาระหนี้สินของพี่น้องทุกคน หากรายได้แต่ละครอบครัวที่มีไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน ทางพรรคเพื่อไทยจะเติมให้เต็ม 20,000 บาททุกเดือน
เศรษฐา ปราศรัยถึงบางพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลอยู่บอกว่าจะลดค่าไฟในสมัยหน้า ตนจึลอยากตั้งคำถามว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนเป็นรัฐบาล ซึ่งถ้าเพื่อไทยเข้ามาค่าไฟลดทันทีในเดือนแรกที่ได้เป็นรัฐบาล รวมถึงการให้สัญญาเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท แต่ปัจจุบันค่าแรงก็อยู่เท่าเดิม หากทำไม่ได้ ทำไม่เป็น พอแล้ว และพรรคเพื่อไทยจะเข้ามาทำเอง ซึ่งแพทองธาร ชินวัตร หรือน้องอิ๊งค์ ในฐานะลูกของ อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเคยมอบความไว้วางใจและให้ความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็ประกาศแล้วว่าปีแรกหากเข้ามาเป็นรัฐบาล จะทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็น 400 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 600 บาทภายในปี 2570 อย่างแน่นอน
และที่สำคัญลูกหลานของเราจะต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำ 25,000 บาท เราต้องสนันสนุนให้ลูกหลานที่ได้รับการศึกษา ได้รับค่าแรงที่ถูกต้องเป็นธรรม ไม่ใช่ถูกกดขี่จากนายทุน และอีกเรื่องที่จะทำคือเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็จะเข้ามาเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ครอบครัวไหนมี 5 คนก็รับไปเลย 50,000 มี 10 คนก็รับไปเลย 100,000 บาท เราจะไม่มาคอยให้ประชาชนรับไปเดือน 1,000 เหมือนหยอดน้ำข้าวต้ม ไม่พอที่จะดูแลครอบครัว เราให้เพื่อให้ทุกท่านเริ่มลุกขึ้นเดินแล้วต่อสู้ ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจยังยื่น
“พรรคคู่แข่งให้ร้ายเราว่าถ้าเราทำนโยบายนี้จะไม่มีวินัยการเงินการคลัง พี่น้องครับสมัยคุณทักษิณเราจ่ายหนี้ IMP ได้ก่อนกำหนดชำระหนี้ถึงสองปี สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์เราเคยจะทำให้รายจ่ายไม่มากไปกว่ารายรับเกือบได้ แต่ดันถูกรัฐประหารโดยพวกเผด็จการ จมปลักมา 8 ปี ดูซิครับว่าประเทศเราถดถอยไปมากขนาดไหน การทำร้ฐประหารทำให้ถดถอยไปมากขนาดนั้น”
เศรษฐา ปิดท้ายการปราศรัย ด้วยการฝากสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.หลักสี่พรรคเพื่อไทย รวมถึงให้ห้กาเลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ช่วยให้เพื่อไทยได้เดินไปข้างหน้า เข้าไปบริหารจัดการประเทศ เพื่อนำนโยบายไปทำเพื่อพี่น้องประชาชน