‘เพื่อไทย’ วอน กกต. ทำงานให้คุ้มค่าภาษีประชาชนที่ไปดูงานเมืองนอก กังวลคนหาเช้ากินค่ำ สับสนบัตรเลือกตั้ง ไม่กังวล ‘ก้าวไกล’ กระแสพุ่ง เป็นปกติของช่วงก่อนกาบัตร
27 เม.ย. ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสที่พรรคก้าวไกล ตีตื้นมาในช่วงโค้งสุดท้าย จนถูกมองว่ามาลดทอนกระแสนิยมของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องปกติ การหาเสียงทุกครั้ง ไม่มีพรรคไหนที่จะขาขึ้นได้ตลอดเวลา พรรคเพื่อไทยช่วงก่อนเปิดนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ-เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท กระแสก็ยังนิ่งๆ แต่พอเปิดนโยบายมากระแสก็ขึ้น และก็นิ่งๆ ต่อมาพอเปิดนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท กระแสก็ขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกรอบ ซึ่งเช่นเดียวกับทุกพรรคที่เวลาเปิดแคมเปญหรือนโยบายอะไรออกมา กระแสก็จะมีขึ้นและมีลง เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ทำให้เราได้ตระหนักว่าต้องขยันทำงานมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีบัตรเลือกตั้งของ กกต.ที่มีปัญหามากมาย ดนุพรกล่าวว่า นี่คือสิ่งที่น่ากลัว โดยเราเป็นห่วงเรื่องความเข้าใจในการลงคะแนนในบัตร โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่งง ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้ว่าบัตรสีไหนเลือกอะไร ยังมีความสับสนเกิดขึ้นอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้หาเช้ากินค่ำ เรานั่งดูรายละเอียดและกำลังแก้ปัญหากันอยู่ เวลาเอาก็ให้ผู้สมัครของเราทำความเข้าใจกับประชาชนมากที่สุด
เมื่อถามถึงการทุจริตการเลือกตั้ง ที่มีกระแสข่าวในช่วงใกล้โค้งสุดท้าย ดนุพรกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็ได้พูดคุยกันเมื่อวันก่อนกับผู้สมัครทั้ง 400 คน ช่วยเราให้ผู้สมัครของเราเป็นหูเป็นตาช่วย กกต. ทำงาน เพราะกต่อก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่มากมายที่ลงไปเดินตามตรอกซอกซอย และคนทำผิดกฏหมายก็อยู่ในที่มืดอยู่แล้ว แล้วสิ่งที่น่ากังวลมากก็คือวันเลือกตั้งล่วงหน้า 7 พ.ค. ที่ในบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคอีสานเริ่มมีการเก็บบัตรประชาชน เริ่มให้ไป เลือกตั้งนอกเขตมากขึ้น เราก็มานั่งคุยกันแล้วก็จะดูแลอย่างไรเพื่อไม่ให้การทุจริตเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า มองการทำงานของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไร ดนุพร กล่าวว่า กกต.บางคนก็มีประสบการณ์การทำงานมาบ้างแล้ว เห็นว่าใช้งบประมาณภาษีประชาชนจำนวนมากในการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ก็ต้องมำให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชน เอาประสบการณ์ตรงนั้น กลับมาพัฒนาการเลือกตั้งในประเทศไทยให้เกิดความ โปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม และได้ข่าวว่ามีการตั้งรางวัลนำจับคนที่ทุจริตการเลือกตั้งแล้ว ก็หวังว่าให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อทำให้การเลือกตั้งนั้นโปร่งใส