การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.2566 สำหรับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 สำหรับผู้ใช้สิทธิตามปกติ สำหรับการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบรายชื่อ
ตรวจสอบรายชื่อและลำดับที่จากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ประกาศไว้หน้าหน่วยเลือกตั้ง หรือตรวจสอบข้อมูลการใช้สิทธิทางแอปฯ Smart Vote
ขั้นตอนที่ 2 ยื่นหลักฐานแสดงตน
ยื่นบัตรประชาชนหรือหลักฐานแสดงตน ให้กรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางเพื่อตรวจสอบข้อมูลและยืนยันตัวตน พร้อมลงลายมือชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 3 รับบัตรเลือกตั้ง
รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่บัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้ว หัวแม่มือขวา บนต้นขั้วบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ประเภท โดยกรรมการประจำที่เลือกตั้งลงลายมือชื่อในต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 4 ทำเครื่องหมายกากบาท
เข้าคูหาลงคะแนน ทำเครื่องหมายกากบาท X ลงในช่องทำเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้ง แต่ละประเภท โดยสามารถเลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ได้เพียงบัตรละหมายเลขเดียว หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครใดหรือบัญชีรายชื่อ ของพรรคการเมืองใดเลย ให้ทำเครื่องหมายกากบาท X ในช่องไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือ ไม่เลือกบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด
ขั้นตอนที่ 5 หย่อนบัตรด้วยตนเอง
เมื่อลงคะแนนเสร็จแล้วพับบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภท ให้เรียบร้อย และหย่อนบัตรลงในหีบบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภทให้ถูกต้องด้วยตนเอง
หลักฐานแสดงตน ในการลงคะแนนเลือกตั้ง
ก่อนเดินทางไปเลือกตั้ง ตรวจสอบเอกสารประจำตัว ที่จำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานแสดงตนในการลงคะแนนเลือกตั้งที่จำเป็นต้องมี คือ
- บัตรประจำตัวประชาชน แม้จะหมดอายุก็ใช้ได้
- บัตรที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันก็ได้ แต่เน้นว่าต้องเป็นแอปพลิเคชันของหน่วยงานรัฐ ตามที่กฎหมายกำหนด
- บัตรหรือหลักฐานอื่นที่หน่วยงานของรัฐออกให้ ที่มีรูปถ่ายและ มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เลือกตั้ง2566 : กกต.ตั้งรางวัลแจ้งเหตุทุจริตเลือกตั้งมี “ค่าข่าว”
เลือกตั้ง 2566 : ลูกจ้างใช้สิทธิเลือกตั้ง 7 และ 14 พ.ค.นี้ ไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด
เลือกตั้ง2566 : เปิดขั้นตอนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร