หน้าแรก Voice TV ‘ศิริกัญญา’ ชี้ค่าไฟแฟงต้องแก้ที่ต้นต่อ พร้อมเป็นรัฐบาลชนทุนผูกขาด

‘ศิริกัญญา’ ชี้ค่าไฟแฟงต้องแก้ที่ต้นต่อ พร้อมเป็นรัฐบาลชนทุนผูกขาด

76
0
‘ศิริกัญญา’-ชี้ค่าไฟแฟงต้องแก้ที่ต้นต่อ-พร้อมเป็นรัฐบาลชนทุนผูกขาด

‘ศิริกัญญา’ ลั่นแก้ไฟแพง ต้องกล้าชนต้นตอ ชู ‘ก้าวไกล’ อภิปรายไฟแพงตั้งแต่ปี ‘63 เป็นรัฐบาลกล้าชนทุนผูกขาดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้าทันที 70 สตางค์ ปลุกคนภูเก็ต กาก้าวไกล 2 ใบยกจังหวัด เปลี่ยนประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

28 เม.ย. 2566 ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัย ‘กาก้าวไกล แก้ปัญหาที่ต้นตอ ซื่อตรงต่อประชาชน’ ที่เวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยกล่าวว่า วันนี้เห็นหัวคะแนนธรรมชาติมากันเยอะขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่ทุกโพลทุกสำนักให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีในดวงใจของทุกคน

ศิริกัญญา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลนำเสนอเรื่องการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต โดย ‘การเมืองดี’ คือการคืนอำนาจให้พี่น้องชาวภูเก็ต ได้เลือกผู้ว่าฯ ของตัวเอง ทำให้เศรษฐกิจภูเก็ตเติบโต ดอกผลของการพัฒนาตกอยู่กับคนภูเก็ต

ส่วน ‘ปากท้องดี’ ตอนนี้เห็นหลายคนบ่นเรื่องค่าไฟแพงทั้งแผ่นดิน พรรคก้าวไกลพูดเรื่องนี้ในสภาฯ ตั้งแต่ปี 2563 โดยปดิพัทธ์ สันติภาดา อภิปรายนโยบาย คสช. ที่เอื้อสัมปทานให้นายทุนสัมปทานโซลาร์เซลล์ จนเกิดเศรษฐีหมื่นล้าน ต่อมาปี 2564 เบญจา แสงจันทร์ อภิปรายซ้ำอีกครั้ง เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าใครได้สัมปทานโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 25 ปี กำไรอู้ฟู่ เบญจาถูกฟ้องเป็นเงิน 100 ล้านบาท แต่ปี 2565 เราก็ไม่หยุด อภิปรายเรื่องการใช้นโยบายก๊าซธรรมชาติ ซึ่งควรเป็นสมบัติของประชาชน แทนที่จะให้ประชาชนได้ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีราคาถูกก่อน รัฐบาลกลับเอาไปให้โรงงานปิโตรเคมี ให้โรงงานอุตสาหกรรมใช้ก่อน จนค่าไฟของประชาชนแพงแบบนี้

ดังนั้น ถ้าจะเลิก ต้องเปลี่ยนลำดับการใช้ เอาก๊าซธรรมชาติราคาถูกมาให้ประชาชนใช้ก่อน พรรคก้าวไกลประกาศลดค่าไฟทันที 70 สตางค์ ภายใน 1 ปี ในขณะที่พรรคอื่นชอบพูดว่าจะยกเลิกค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลเราแก้ปัญหาที่ต้นตอ หากต้นตอคือนายทุนพลังงาน คือทุนผูกขาดไฟฟ้า เราก็ต้องกล้าชนเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ไฟที่ราคาถูกลง

ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ภูเก็ตควรมีเศรษฐกิจที่ดีกว่านี้ พรรคก้าวไกลมีนโยบายหลายอย่าง เช่น หวยใบเสร็จ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาทต่อวัน มีสวัสดิการตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่ารัฐสวัสดิการมีราคาที่ต้องจ่าย เรายืนยันมีเงินจ่ายทำได้จริง ด้วยเม็ดเงิน 650,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ คนภูเก็ตจำเป็นต้องมีอนาคต นั่นคือการมีอุโมงค์ลอดไปป่าตอง มีศูนย์ประชุมนานาชาติ มีโรงพยาบาลที่ใหญ่ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้การท่องเที่ยวในภูเก็ตสามารถสร้างมูลค่าที่เกิดและตกแก่คนภูเก็ตมากกว่านี้ รวมถึงการสร้างงานใหม่ๆ ตามแนวทางสร้างงานซ่อมประเทศ เช่น การปรับปรุงท่อประปาใหม่ทั้งหมด ให้น้ำประปาภูเก็ตไหลตลอดและดื่มได้ จะช่วยสร้างงานบริการปรับปรุงท่อประปา ติดสมาร์ตมิเตอร์ เป็นต้น

“ถ้าทั้งหมดนี้คือความฝันที่เรามีร่วมกัน ขอให้ชาวภูเก็ตกาก้าวไกลทั้ง 2 ใบทุกเขต เลือกให้เราเข้าไปเปลี่ยนประเทศ เปลี่ยนภูเก็ตให้ไม่เหมือนเดิม” ศิริกัญญากล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่