สนั่นห้วยขวาง! ‘ณัฐวุฒิ’ ลั่นหมดเวลาแบ่งใจ ต้องกา ‘เพื่อไทย’ ให้แลนด์สไลด์ ชี้พรรคใดไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลักก็ไม่ต้องจับกัน ‘ดนุพร’ ปลุกทวงเก้าอี้คืน ‘ยิ่งลักษณ์’ ไล่ส่ง ‘ประยุทธ์’ ออกทำเนียบ
วันที่ 28 เม.ย. ที่สนามกีฬาห้วยขวาง เขตห้วยขวาง ในเวทีปราศรัยย่อย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ’ พรรคเพื่อไทย นำโดย แกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส. กทม. ลีลาวดี วัชโรบล เขตปทุมวัน เขตสาทร และเขตราชเทวี ขจรศักดิ์ ประดิษฐาน ผู้สมัคร เขตห้วยขวาง และเขตวังทองหลาง (ยกเว้นแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) ภัทร ภมรมนตรี ผู้สมัคร เขตพญาไท และเขตดินแดง จิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตคลองสามวา (ยกเว้นแขวงสามวาตะวันออกและแขวงทรายกองดินใต้) และ สุรชาติ เทียนทอง เขตจตุจักร (ยกเว้นแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) และ เขตหลักสี่ (ยกเว้นแขวงตลาดบางเขน)
หมดเวลาแบ่งใจ-แลนด์สไลด์เท่านั้น
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวปราศรัยว่า ขณะที่ลงพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้อย่างเข้มข้นหลายวัน ไม่นึกว่าในกรุงเทพฯ จะเกิดข่าวสะเทือนขวัญ
“ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี น้ำหนักลดไป 5 กิโลกรัม กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ช่วงนี้อาจจะเหน็ดเหนื่อยทำงานหนัก น้ำหนักลด แต่อยากให้คุณประยุทธ์รู้ว่า คุณอยู่มาจะเป็น 9 ปี ประชาชนน้ำหนักลด เงินลด ทุกอย่างลด ลดลงทั้งหมด ทั้งโอกาส และอนาคตของประชาชน”
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ลงเลือกตั้งแล้วลูกพรรคทิ้งหมด และลูกพรรคเวลาไปหาเสียงบอกประชาชนว่า ส.ส.เขตให้เลือกตน ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้เลือกเพื่อไทยไปเลย
“อยากจะบอกผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งหลาย ขอให้บอกไปตรงๆ เลย ไม่ต้องทำเป็นมีน้ำใจกับประชาชน เพราะเขาจะกาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบอยู่แล้ว และเมื่อพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ พรรคแตกทันที”
ณัฐวุฒิ ชี้ว่า นโยบายเงินดิจิตอล 10,000 บาท ทำให้รัฐบาลปัจจุบันอกสั่นขวัญแขวน หาเรื่องจะยุบพรรค และล้มนโยบาย ฝ่ายเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยคิดมาอย่างละเอียดแล้ว ว่านโยบายปฏิบัติได้จริง ไม่ขัดต่อกฎหมายใดๆ ไม่มีการยุบพรรคหรือหยุดนโยบาย ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย ได้เงินทันทีคนละ 10,000 บาท
“แต่ถ้าเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ปัญหาที่คั่งค้างอยู่ไม่มีปัญญาแก้ไข ถ้าแก้ไขได้ แก้ไปแล้ว เขาให้ขึ้นค่าแรง ทะลึ่งมาขึ้นค่าไฟ แล้วพอชาวบ้านโวย ชาวบ้านด่า ประกาศลดค่าไฟหน่วยละ 2 สตางค์ จะลดแก้บนหรืออย่างไร รัฐบาลเพื่อไทย คุณเศรษฐา ทวีสิน ประกาศแล้ว ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ลดค่าไฟทันที”
ณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ การเมืองไทยจะจมหนักไปกว่าเก่า กุมอำนาจแต่ขาดความสามารถ อ้างว่าเข้ามาเสียสละ 8 ปี ลืมตาดูอีกที มีแต่พรรคพวกเพื่อนพ้องตัวเองทั้งนั้น บอร์ดต่างๆ ล้วนมีแต่ทหารทุกบอร์ด บ้านเมืองจึงบอดกันมา 9 ปีแล้ว ตนไม่ได้มีปัญหากับทหาร แต่มีปัญหากับทหารที่เข้ามายึดอำนาจและเห็นแก่ประโยชน์ของตนและพวกพ้อง อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำอยู่
“ถ้าอยากได้ประยุทธ์ เลือกพรรคไหนมันก็มา แต่ถ้าไม่อยากได้ เลือกเพื่อไทยเท่านั้น มันถึงจะออกไป ไม่มีแบ่งใจ ไม่มีแบ่งแต้ม ไม่มีรักพี่เสียดายน้อง รักตัวเองก่อนพี่น้องครับ”
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เวลานี้เกิดพื้นที่ถกเถียงทางความคิดว่า เพื่อไทยไม่ต้องแลนด์สไลด์หรือได้เกินครึ่งก็ได้ ไปรวมกับพรรคอื่นก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่ที่จำเป็นต้องเกินครึ่ง เพื่อเอาชนะ 250 ส.ว. ถ้าพรรคเพื่อไทยยังไม่ถึงครึ่ง ส.ว.ก็จะชี้ว่า ประชาชนไม่ได้มีฉันทานุมัติอย่างท่วมท้น เขาจะยก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกต่อแน่ จึงจำเป็นต้องแลนสไลด์
“เลิกคิด เลิกกังวล ว่าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วจะไปจับ พล.อ.ประวิตร มาเป็นนายกฯ มันไม่มี ไม่มีมาตั้งแต่ต้นแล้วจะบอกให้ ก็เขาเสนอแคนดิเดต มา 3 คนแล้ว จะบอกประชาชนว่าที่เสนอมาเป็นไม่ได้สักคน เอาคนที่เดินไม่ไหวมาเป็น แทนที่พวกเรา 3 คน จะได้เหรอ”
ณัฐวุฒิ ยังกล่าวด้วยว่า หากพรรคฝ่ายเผด็จการหวังจะแตกตัวเพราะกลัวว่าจะแพ้ อย่าเพิ่งหันมาทางพรรคเพื่อไทย เพราะอาจจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว แต่ถ้ามีพรรคเดียวก็อาจถูกกลั่นแกล้งเหมือนอดีต ต้องหาแนวร่วมเป็นเพื่อนเดินไปด้วยกัน แต่ใช่ว่าจะเอาใครมาก็ได้ บางพรรคประกาศว่าจะจับมือกับพรรคใด แล้วมาบังคับให้เพื่อไทยประกาศให้ชัด แต่พรรคเพื่อไทยไม่ประกาศแบบนั้น เราขอฟังเสียงกับประชาชนก่อน
“ใครไม่สบายใจจะทำงานกับเพื่อไทยก็ขอให้บอก เลือกตั้งเสร็จจะได้ว่ากันให้ถูกต้อง ก็ขอให้บอก ถ้าไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย จะเจอกันต่อไปอีก 4 ปีได้อย่างไร ชัดๆ ว่าพรรคเพื่อไทยไม่จับมือกับฝ่ายเผด็จการ จะจับมือกับฝ่ายประชาธิปไตย แต่นโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลเท่านั้น ทุกนโยบาย”
ปลุกเข้าคูหาฆ่าเผด็จการ อย่าให้เสียดายว่าไม่ได้เลือก ‘เพื่อไทย’
ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร ปราศรัยโดยว่า พรรคเพื่อไทยใส่ใจในคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาล และมุ่งมั่นผลักดันให้ 50 เขตของกรุงเทพมหานครมี 50 โรงพยาบาล พร้อมเน้นย้ำความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัดฝุ่นนโยบายเก่าๆที่เคยสำเร็จในสมัยไทยรักไทยมาสานต่อ เช่น กองทุน SML
ดนุพร ย้ำว่า ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนผู้นำ ให้คนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์เข้ามาทำการเมืองบ้าง การเลือกตั้งครั้งนี้จึงต้องเลือกให้ดี ต้องเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ อย่าให้มีคำพูดว่า รู้อย่างนี้เลือกเพื่อไทยดีกว่า เราอยู่แบบนี้มานานเกินไปแล้ว ถ้าอยู่แบบนี้อีกต่อไปคงจะตายทั้งประเทศ ต้องกาเพื่อไทยในคูหาทั้ง 2 เบอร์
“แลนด์สไลด์อย่างเดียวไม่พอ ถึงเวลาแล้ว ที่เพื่อไทยจะต้องทวงคืนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับคืนมา เรารอมา 9 ปี ไม่ว่าปฏิวัติกี่ครั้ง พอมีเลือกตั้งเราก็ชนะ เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน”
“ในโค้งสุดท้าย เราจะเดินเข้าทำเนียบอย่างสง่างาม ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว 14 พ.ค. เข้าคูหาเลือกพวกเรา ฆ่าเผด็จการให้ตายไปเสียที 15 พ.ค. เลือกตั้ง ต้องให้ลุงตู่ขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล ถ้ารักเพื่อไทย เชื่อใจเศรษฐา ศรัทธาชินวัตร ต้องกา 29”