ชาวบ้านมอบ ‘ผักอีตู่’ ให้ผู้สมัครเพื่อไทย ลั่นไม่กังวลผลโพล เดินหน้าขอคะแนนเช้ายันค่ำ ยืนยัน ‘เพื่อไทย’ แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
วันนี้ (29 เม.ย.) เวลา 17.00 น. ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พรรคเพื่อไทย, ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อุเมศนัส ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัคร ส.ส.เขตสวนหลวง-ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เดินตลาดพบปะประชาชน ณ ตลาดยงเจริญ ศรีนครินทร์ 40
บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยอย่างล้นหลาม ในระหว่างการเดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด มีประชาชนนำดอกไม้ประดับด้วยใบแมงลักมามอบให้แก่ ธกร และคณะแกนนำเพื่อไทย โดยให้นัยสำคัญว่า ใบแมงลักในภาษาอีสานเรียกว่า ‘ผักอีตู่’ ตนจึงอยากฝากให้พรรคเพื่อไทยนำอีตู่ออกไป
จากนั้น ธกร กล่าวระหว่างลงพื้นทีว่า ส.สของพรรคเพื่อไทยทุกคนเป็นนักรบ ผู้สมัครของพรรคแต่ละคนลงพื้นที่หนักตลอด ตารางของผู้สมัครแต่ละคนไปไม่ต่ำกว่า 8 ที่ และหากจะย้อนไปช่วงโควิด ผู้สมัครของเราเปิดศูนย์พักคอยและช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด โดยเราใช้จังหวะที่เราลงพื้นที่ในการเก็บข้อมูลว่าประชาชนต้องการอะไร และหากมีโอกาสเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร ส.สพรรคเพื่อไทยสามารถทำงานได้ทันที เพราะเรารู้ปัญหาและจุดอ่อนของเขตเราว่าคืออะไร
ด้าน ลิณธิภรณ์ กล่าวถึงผลโพลต่างๆของพรรคเพื่อไทยว่า มีโพล 2 รูปแบบ ทั้งที่มีการสำรวจโดยสำนักต่างๆ และ โพลของพรรค และเอาเข้าจริงพักไม่ได้กังวลต่อผลโพล ที่ออกมา เพราะในโค้งสุดท้าย สิ่งที่พรรคจะเน้นย้ำก็คือใช้การต่อสู้ด้วยนโยบาย มีหลายคนกล่าวว่าพรรคเพื่อไทยมีแค่เพียงนโยบายปากท้อง และไม่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง พรรคเพื่อไทยอยากจะบอกว่า พรรคเพื่อไทย มีนโยบายที่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง 3 ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง ด้านการเมืองเราแก้ไขเรื่องการป้องกันการรัฐประหาร และ การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ในด้านสังคมเรามีนโยบายด้านสิทธิเสรีภาพในการคุ้มครองผู้ชุมนุม และเรื่องการศึกษา และการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
“ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีฐานเสียงของคนที่มีอายุเยอะ อาจจะอยู่ในโซเชียลมีเดียไม่มากพอ แต่จากการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยทุกจังหวัด เราพบว่ากระแสการตอบรับนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่เชื่อมั่นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นมีสูง วันนี้ประเทศมีวิกฤตเราต้องการนักบริหารมืออาชีพ ไม่ใช่คนที่พูดว่าจะทำ แต่ไม่ทำ แต่เพื่อไทยพูดชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง โดยเชื่อมั่นว่าผลงานที่ผ่านมาจะตอกย้ำชัยชนะของพรรคเพื่อไทย” ลิณธิภรณ์ กล่าว
ด้าน ณหทัย กล่าวถึงนโยบายการศึกษาของพรรคว่า วันนี้เราจะเปิดโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนที่ปลดปล่อยพลังสมอง และศักยภาพที่เปี่ยมล้นทั้งครูและเด็ก หลักการประชาธิปไตย ต้องเข้าไปอยู่ในทุกโรงเรียน กฎระเบียบต่างๆที่สกัดกั้น ทั้งครูและนักเรียนไม่ให้แสดงออกความคิดสร้างสรรค์ เราจะทลายกำแพงเหล่านั้นไปให้หมด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เพื่อไทยคำนึงมาโดยตลอด หาแนวทางว่าทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยเข้าสู่สถานศึกษา
ส่วนอีกเรื่องคือความปลอดภัยของครู เรื่องกฎระเบียบที่ให้ครูผู้หญิงเฝ้ายามสถานศึกษาในเวลากลางคืน เราจะปลดกฎระเบียบตรงนี้ออกไปและใช้เทคโนโลยีมาทดแทน หรือการใช้รูปแบบอาสาสมัครโรงเรียน เข้ามาช่วยดูแลโรงเรียนในชุมชน
อีกเรื่อง สภาพเศรษฐกิจในช่วง 9 ปีที่ผ่านมาทำให้ประชาชน คำนึงถึงปากท้องตัวเองจนกระทั่งลูกหลานไม่สามารถเข้าระบบการศึกษาได้ เรื่องนี้เราจะแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยี ด้วยนโยบายแท็บเล็ต มาเชื่อมให้เด็กหลุดจากระบบให้เข้าสู่ระบบการศึกษาไปหาเขาถึงบ้าน ไม่ต้องมานั่งเรียนอีกแล้ว เราจะเปิดกรอบทุกระบบ เราจะเชื่อมแพลตฟอร์ม Learn To earn เข้ากับทักษะที่มีอยู่ในโลกนี้แล้ว กว่า 50,000 ทักษะ การศึกษาทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ และสร้างเศรษฐกิจครอบครัวที่ดีขึ้นได้