วันนี้ (5 พ.ค.2566) นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ชินวัตร อดีตแกนนำกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยถึง การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองที่ขณะนี้ได้ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติเขต 1 เบอร์ 2 น.ส.วิภาวัลย์ วรวรรณปรีชา และเขต 2 เบอร์ 5 นายเฉลิมพล นิยมสินธุ์ โดยได้รับการชักชวนจาก น.ส.วิภาวัลย์
นายชินวัตรบอกว่า กระแสตอบรับหลังจากที่ได้เข้ามาช่วยลงพื้นที่หาเสียงนั้นค่อนข้างดี ทำให้กระแสของผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ พื้นที่เขต 1 เบอร์ 2 จากโพลสำรวจในพื้นที่ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแล้วในตอนนี้
นายชินวัตร ยังกล่าวว่า กรณีที่ตนเองย้ายฝั่งกลับตัวมาช่วยเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับทางพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะว่า รู้สึกว่าในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยังคงมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งปัญหาในชุมชน ปัญหาสังคม และเล็งเห็นว่าผู้สมัครทั้ง 2 ท่านนี้มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนในพื้นที่ อย่างช่วงที่ผ่านมาปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังไม่มีพื้นที่ที่จะใช้ในการรักษาผู้ป่วย
ในขณะนั้นทั้ง น.ส.วิภาวัลย์ และนายเฉลิมพล ดำรงตำแหน่ง รองนายก อบจ.และเลขานุการนายก อบจ.อยู่ และได้ประสานกับตนเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ จัดเตรียมสถานที่ในการรองรับผู้ป่วยโควิด -19 ซึ่งในขณะนั้นมีผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 2,000 คนที่ลงชื่อเข้ารับการรักษา
ที่ผ่านมากว่า10 ปี นั้น ตนก็ถือเป็นลูกหลานคนนึงที่เกิดและเติบโตมาใน จ.นนทบุรี และได้เห็นผู้สมัครทั้ง 2 ท่านนี้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด ตนจึงรู้สึกว่าทุกวันนี้ความขัดแย้งในบ้านเมืองควรจะยุติได้แล้ว
เนื่องจากที่ผ่านมารู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร ผู้ที่เสียผลประโยชน์ก็มีแต่ประชาชนเพราะฉะนั้นตนจึงคิดว่า ถ้าหากหันกลับมาสนับสนุนผู้สมัครที่มีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และเข้าถึงปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิตของพี่น้องในชุมชนก็คงจะเป็นเรื่องที่ดี จึงเป็นสาเหตุที่ตนหันมาสนับสนุนทั้ง 2 ท่านนี้
ตนขอย้ำตรงนี้ว่า ไม่เป็นความจริงที่มีคนไปพูดว่าตนนั้นทรยศต่ออุดมการณ์ของตัวเองทางผู้สมัครทั้ง 2 ท่านนี้มีการใช้เงินมาซื้อตัวไป ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง
นายชินวัตรยังกล่าวว่า เปลี่ยนมาสนับสนุนเพราะว่าเห็นประโยชน์ที่ชาวบ้านจะได้รับเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่หาเสียงรวมกับทั้ง 2 ท่านนี้ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด ซึ่งก็จะมีทั้งคนที่เข้าใจเราและไม่เข้าใจเรา
ในส่วนของคนที่เข้าใจนั้นก็ช่วยสนับสนุนตนและคอยให้กำลังใจมาตลอด ในส่วนของคนที่ไม่เข้าใจและคิดว่าตนทรยศต่ออุดมการณ์ก็มี ตนก็ไม่สามารถจะไปว่าอะไรเขาได้ เพราะคนเรามีความคิดไม่เหมือนกัน
ส่วนเรื่องของเสียงตอบรับของคนในพื้นที่ทั้งต่อ น.ส.วิภาวัลย์ และตัวไบรท์ เองนั้น ต้องขอบอกว่าเกินคาด เพราะหลังจากที่ตนช่วยลงพื้นที่หาเสียงแล้ว ผลตอบรับตอนนี้จากโพลท้องถิ่น นางวิภาวัลย์ ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แล้ว ซึ่งผิดจากที่คิดเอาไว้มาก
ทางด้าน น.ส.วิภาวัลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ถึง 3 สมัยด้วยกัน และยังเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการ นายก อบจ.นนทบุรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองนายก อบจ.นนทบุรี
ที่ผ่านมามีผลงานมากมายทั้งที่เกี่ยวข้องและร่วมกับหน่วยงานราชการและผลงานส่วนตัว ซึ่งผลงานส่วนใหญ่จะร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเรื่องของการศึกษา และเรื่องของสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของผลงานส่วนตัวนั้นจะเป็นในเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือสังคม จากที่ผ่านมาเคยลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง คนยากไร้ เด็กด้อยโอกาสทั้งหลาย
รวมไปถึงการให้ทุนการศึกษา หาผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้กับผู้ป่วยติดเตียง และดูแลในเรื่องของการตั้งการครรภ์ก่อนวัยอันควรสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดปัญหาต่อสังคมในภายภาคหน้า
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และอีกหลายโครงการที่ช่วยเหลือชาวในชุมชนต่าง ๆ ที่เล็งเห็นผลในอนาคต ซึ่งผลงานส่วนตัวตรงนี้ก็เป็นการใช้เงินส่วนตัวทั้งหมด และรู้สึกว่ามีความภูมิใจที่ได้ทำสิ่งดีๆเหล่านี้
น.ส.วิภาวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงโดยมี นายชินวัตร เข้ามาช่วยตรงนี้ผลตอบรับอยู่ในทิศทางที่ดีเลยทีเดียว ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ตนและทีมงานลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดหน้า รพ.พระนั่งเกล้า ได้รับการต้อนรับจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างดี