ประจุไฟฟ้า มีขั้วบวก ขั้วลบ ฉันใด การโยนหินถามทางหย่อน 2 ข้อความผ่านทวีตของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ย่อมส่งผลกระทบต่อเกมการเมืองของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” ประธานครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ฉันนั้น
หากนับวาทกรรม “กลับบ้าน” ของนายทักษิณ ตั้งแต่ปี 2549-2566 พบว่าเคยเกิดขึ้นแล้ว 18 ครั้ง แต่ครานี้ชัดกว่าครั้งอื่น ๆ ในประเด็นว่า “พร้อมเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ในเดือน ก.ค. นี้ และอยู่ในช่วงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐบาลรักษาการ”
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช วิเคราะห์ว่า นายทักษิณต้องการเรียกคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทย เนื่องจากกระแสพรรคก้าวไกลมาแรงมาก มองมุมบวก คือ การหวังคะแนนเพิ่ม จากผู้ที่สนับสนุนนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย แต่เชื่อว่าไม่ได้เพิ่มมากนัก เพราะกลุ่มนี้เป็นฐานเดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
การกลับมาหลังวันเลือกตั้ง โดยกำหนดว่าเป็นวันที่ 7 ก.ค.นี้ ไม่ช่วยอะไร หากต้องการให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงแลนด์สไลด์จริง ๆ นายทักษิณ ต้องกลับมาก่อนวันเลือกตั้ง แต่ส่วนตัวยัง 50 : 50 ไม่เชื่อว่าเขาจะกลับทั้ง 100%
รศ.ดร.ยุทธพร เชื่อว่า ขณะนี้นายทักษิณไม่ได้มีทางเลือกมาก และคงประเมินสถานการณ์แล้วว่า การกลับมาประเทศไทย ผลได้เสียจะคุ้มหรือไม่ หากเดินทางกลับมาก่อนเลือกตั้ง เพราะต้องติดคุกและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงใช้สื่อโซเชียลที่ตนเองถนัดเช่วยพรรคเพื่อไทยในโค้งสุดท้าย
เดือน กค.จะมีการจัดตั้งรัฐบาลพอดี หลังเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ กกต.จะต้องประกาศรับรองผลให้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ภายใน 60 วัน เพื่อสามารถเปิดสภาได้ ซึ่ง 2 เดือนหลังจากนี้จะมีการเคลื่อนไหว หากเขากลับมาจริงบ้านเมืองจะวุ่นวาย และอาจส่งผลกระทบต่อการเมืองได้
และย้ำว่า หากนายทักษิณเดินทางกลับมาจริง สิ่งที่ต้องพบ คือ การถูกจับกุมตามช่องทางที่เข้ามาที่สนามบิน และต้องถูกนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะมีหลายคดีที่รออยู่ ทั้งคดีที่ศาลมีคำพิพากษาจนถึงที่สุดแล้ว และคดีที่อยู่ในชั้นการพิจารณาคดี
อาจารย์รัฐศาสตร์ มสธ. กล่าวว่า ส่วนนายทักษิณจะได้รับการประกันตัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของของศาล แต่ปกติผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับจะไม่ได้รับการประกันตัว หรือกรณีมีเงื่อนไขกลับมาแต่ไม่ยอมติดคุกก็ยากที่จะทำได้ หากกฎหมายไม่เปิดช่อง
หากคุณทักษิณต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจริง ๆ คงกลับมานานแล้ว ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้งก็กลับมาได้
สอดคล้องกับ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒบริหารศาสตร์ (นิด้า) ระบุว่า ในเชิงยุทธศาสตร์ การทวีตของนายทักษิณไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง เพราะประชาชนตัดสินใจไปเกือบหมดแล้ว และไม่ส่งผลต่อคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกล
เขาแค่ต้องการตอกย้ำฐานเสียงภาคอีสานให้มั่นคง เพื่อไทยจะไม่มีการแลนด์สไลด์ จากปัญหาความไม่ชัดเจน เรื่องจุดยืน นโยบายโดดเด่นของเพื่อไทยมีแค่เศรษฐกิจ ส่วนการเมืองและสังคมไม่สู้คู่แข่งอย่างพรรคก้าวไกลไม่ได้ และคะแนนของเพื่อไทยอยู่ในช่วงชะงักงัน แนวโน้มถดถอย ตั้งแต่เดือน มี.ค -เม.ย.เขาจึงพยายามตรึงคะแนนไม่ให้ไหลไปหาพรรคก้าวไกลเท่านั้น
รศ.ดร.พิชาย กล่าวว่า แต่นัยที่คาดไม่ถึงคือทำให้คะแนนของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในพรรคซีกฝ่าย รัฐบาล อย่าง ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ จะเทคะแนนกลับมาให้พรรครวมไทยสร้างชาติเพื่อเอามาต่อต้านนายทักษิณ แนวโน้มที่นายทักษิณจะไม่กลับ มีมากกว่าที่จะกลับมา เขาเคยประกาศว่า ไม่อยากจะติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ถ้าเขาเจรจาได้ว่า ไม่ต้องติดคุก แต่ขอไปกักขังที่บ้านแทน ถ้าได้เงื่อนไขนี้เขาก็คงอยากจะกลับมา แต่ถ้ามีเงื่อนไขให้ติดคุกก่อน ส่วนจะไปรับโทษที่บ้านให้ว่ากันภายหลัง ถ้าเป็นเงื่อนไขนี้เขาอาจจะไม่ทำ
โดยหลักการไม่สามารถทำลายกระบวนการทางกฎหมายได้ หากนายทักษิณจะกลับมาก็ต้องไปเรือนจำก่อน หากเขารับเงื่อนไขนี้ได้ก็กลับมาได้ เชื่อว่า หลังวันที่ 7 ก.ค.จะยังไม่เจอนายทักษิณ ยกเว้นจะได้ข้อสรุปว่า ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการทางเรือนจำ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการเจรจาต่อรองกับผู้มีอำนาจรัฐว่าจะเอาอย่างไร และประชาชนจะส่งเสียงกดดันมากน้อยเพียงไร และสุดท้าย คือ ทำได้หรือไม่