ผมเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย อีก 2 วันต่อจากนี้ เป็นวันที่จะจารึกประวัติศาสตร์บทใหม่ของประเทศ วันที่ชาวไทยจะพร้อมใจกันก้าวออกจากหลุมดำที่ขังเรามา 8 ปี
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยบนเวทีพรรคเพื่อไทย ก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ภายใต้งาน “เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที
นายเศรษฐา ระบุว่า ประเทศไทยเคยอยู่อย่างสง่างามในเวทีโลก มีศักยภาพ มีคนเก่ง แต่มีผู้นำคณะรัฐประหารได้สร้างวิกฤต เอาปืน เอารถถัง มาจ่อหัวเรา ทำลายศักดิ์ศรีบนเวทีโลก คนไทยทุกคนเป็นผู้เสียหาย สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า และสิ่งที่ส่วนตัวเจ็บปวดหังใจที่สุดคือ การยัดข้อหาว่าเยาวชนไทยชังชาติ รัฐบาลนี้สร้างคุกขนาดใหญ่ไว้ขังคนไทย ทั้งหมดนี้เป็นผลไม้พิษจากการรัฐประหารปี 2557
ขอโอกาสประชาชนอีก 4 ปีให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า เหมือนที่พรรคไทยรักไทย และพลังประชาชนเคยทำมานโยบายครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ขอชวนพี่น้องมองไปข้างหน้า
อ่านข่าวเพิ่ม เลือกตั้ง 2566 : “แพทองธาร” ทิ้งไพ่ขอเสียงกาเบอร์ 29 พาเพื่อไทยเข้าทำเนียบ
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ขอเชิญชวนประชาชนมองไปข้างหน้าว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร หากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมี 11 ด้าน กล่าวคือจะเห็นรัฐบาลที่บริหารอย่างจริงจัง ไม่ใช่บริหารแบบธุรการ
จะไม่บอกว่า ถ้าไม่มีผมแล้วประเทศจะอยู่อย่างไร หรือถ้าผมไม่ทำแล้วใครจะทำ
พรรคเกำหนดเป้าหมายชัดเจนว่าภายในปี 2567 จะมีจีดีพีประเทศโจไม่ตำกว่า 5% ภายใน 4 ปีค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาท ทุกคนจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอย่างนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขอยืนยันนักลงทุนจะกลับมาสนใจประเทศไทยไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านของเรา
2.ตั๋วจำนำหมดไป ระบบเศรษฐกิจของเราทำให้คนไทย ทุกอาชีพ ทุกฐานะ สามารถทำงานเลี้ยงครอบครัวได้ ด้วยนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เติมเงินให้ครอบครัว หลักตลาดนำ นวัตกรรมเสริม และเทคโนโลยีบล็อกเชน
3.รายจ่ายลดลง ผ่านการปรับปรุงบริการเทคโนโลยี 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ราคาไม่แพงในต่างจังหวัด
4. เราจะเห็นยาเสพติดลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยแนวทางของพรรคไทยรักไทย คืนลูกหลานให้ครอบครัว ไม่ใช่ปัญหาของสังคม
5. รักษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม จัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก
6. คืนอากาศที่สะอาด จัดการ PM 2.5 อย่างต่อเนื่องที่ต้นตอ การจราจรในกรุงเทพฯ จะดูแล ไม่ปล่อยไว้แบบนี้
7. ปรับเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ รัฐบาลจะพูดคุยกับกองทัพถึงความจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร ฝึกอาชีพอย่างประเทศพัฒนาแล้ว
8. จะไม่ยอมให้ประชาชนต้องทนกับค่าไฟ ค่าแก๊สแล้ว ควบคุมการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม หาแหล่งพลังงานใหม่
9.จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นภาระประชาชน เช่น ทำตัวเป็นนายประชาชน รีดไถประชาชน เราจะทำทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง เราจะไม่ยอมให้ซื้อขายตำแหน่งทางราชการเด็ดขาดทั้งนักการเมืองและข้าราชการชั้นสูง เราจะไม่โค่นล้มรัฐธรรมนูญ หรือก่อการรัฐประการ บังคับใช้กฎหมายเท่าเทียมและเป็นธรรม ใครโค่นล้มรัฐธรรมนูญจะถูกตราหน้าเป็นอาชญากร
10. เชิญทหารและตำรวจที่อยู่ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจที่ไม่ถนัด กลับไปทำหน้าที่ของตนเอง นำผู้รู้ไปช่วยในวิสาหกิจ รัฐบาลเพื่อไทยจะลดการผูกขาดทุกรูปแบบทั้งภาครัฐและเอกชน
11. เราจะไม่เห็นการบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง เราไม่เห็คนตัวเล็กโดนกลั่นแกล้ง เราจะยกเลิกการตั้งด่านเก็บส่วยของตำรวจและกรมการขนส่งโดยไม่จำเป็น
อ่านข่าวเพิ่ม เลือกตั้ง2566 : ปราศรัยใหญ่ ชู “SAVE ปชป.” ประชาธิปไตยไม่โกง
ขอโอกาสนั่งนายกฯคนที่ 30 ขอ 4 ปีฟื้นประเทศ
นายเศรษฐา กล่าวว่า อนาคตที่กล่าวทั้งหมดนี้เป็นไปได้จริง ด้วยความสามารถของพรรคเพื่อไทย ผมมีความฝันที่เห็นคนไทยอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจเติบโตด้วยหัวใจ มีจุดยืนบนเวทีโลก มีศักดิ์ศรีอีกครั้ง และฝันว่า พรรคเพื่อไทยจะได้รับใช้ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ผมและพรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ เพื่อไม่ให้พวกเราตื่นขึ้นมาพบประเทศขัดแย้ง พบผู้นำไร้หัวใจ คนไทยไร้ที่ยืนบนเวทีโลก
นายเศรษฐา ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย โดนมาหลายครั้ง แต่ยังอยู่มาได้ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้มั่นใจว่าพวกเราจะชนะเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง
ทำให้เราเป็นพรรคเดียวที่มีโอกาสทำให้ ส.ว. ต้องฟังเสียงประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องชนะให้มากกว่าทุกครั้งที่เคย ให้มากพอให้ ส.ว. ทำตามฉันทามติประชาชน เราเสี่ยงไม่ได้แล้ว ที่จะเลือกตั้งแบบไม่มียุทธศาสตร์ให้ฝ่ายเผด็จการกลับมาอีกแล้ว
ขอวิงวอนจากใจ อย่าเลือกเพราะความกลัว แต่เลือกเพราะความชัวร์ ชัวร์ว่าเพื่อไทยทำได้จริง จะทำให้เสียงประชาชนเป็นใหญ่ พรรคเพื่อไทยต้องฟังเสียงประชาชน ผมนายเศรษฐา ทวีสิน ขอเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง2566 : ขึ้นเวทีสุดท้าย “ลุงป้อม” ประกาศทำภารกิจ “ตอบแทนคุณแผ่นดิน”
เลือกตั้ง2566 : เปิดอาคารกีฬาเวสน์ “ก้าวไกล” ปราศรัยเวทีสุดท้าย ก่อนลุ้นกาบัตร 14 พ.ค.