วันนี้ (13 พ.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส. แพรทองธาร ชินวัตร 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังขึ้นรถแห่หาเสียงในกรุงเทพมหานครจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มายังลานพาร์คพารากอนว่า ขอฝากคนรุ่นใหม่ เฟิร์สโหวตเตอร์ที่ได้ใช้สิทธิ เลือกตั้งครั้งนี้ครั้งแรก ขอให้เปิดใจกับพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทำการเมืองมายาวนานกว่า 20 ปี และย้ำให้เห็นผลสำเร็จของนโยบายที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนได้ทำมาแล้ว
“คิดแบบไม่มีอคติทางการเมืองใดใด บอกว่ามีนโยบายไหนที่ตอบโจทย์ ทำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรง ขอให้คนรุ่นใหม่ได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มศักยภาพและภาคภูมิใจที่สุด ยังจำได้ตอนที่ตัวเองได้ใช้สิทธิ์ครั้งแรก ยังรู้สึกภูมิใจในวันนั้น ขอให้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันเยอะๆ” น.ส.แพทองธารกล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าหากประชาชนส่วนใหญ่ได้ฟังการปราศรัยครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 พ.ค. เกี่ยวกับการยืนเคียงข้างประชาชน น่าจะเข้าใจในความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยมากขึ้น และหวังให้ประชาชนเข้าใจในความจริงใจ ขณะเดียวกันหากประชาชนได้เทใจมาให้พรรคเพื่อไทยก็ขอขอบคุณ หวังให้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ
การเลือกตั้งครั้งนี้ในฐานะผู้ท้าชิงในสนามการเมือง ความรู้สึกแตกต่างจากการใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกที่เชียร์พรรคไทยรักไทย ซึ่งครั้งนี้รู้สึกอินกว่าเดิม และท่ามกลางการแข่งขันของทุกพรรคการเมืองคาดว่าอาจจะเกิดสวิงโหวตไปมาแน่ แต่เพื่อไทยยังคงตอกย้ำเรื่องเดิม ว่าพรรคต้องการอะไร จากประชาชน และต้องการเปลี่ยนอะไร
น.ส.แพทองธาร ยอมรับว่าคาดหวังหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง ส.ว. จะพิจารณาเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พร้อมยกตัวอย่างหากตนเองเป็น 1 ใน ส.ว. ต้องเคารพเสียงประชาชน หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเดือน ก.ค. นี้ว่า มีการคุยกันบ้างแต่ไม่ได้คุยกันในรายละเอียด คาดว่าอาจจะบวกลบนิดหน่อยที่ได้ประกาศไว้ ส่วนที่พูดถึงเมื่อเวทีปราศรัยเมื่อคืนนี้ก็เป็นการให้กำลังใจก่อนที่ลูกสาวจะขึ้นปราศรัยใหญ่ ถ้านายทักษิณกลับมาต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในการติดคุกในฐานะลูกสาว น.ส.แพทองธารกล่าวว่าถ้าเป็นการตัดสินใจของพ่อ ก็ยอมรับได้
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารยังกล่าวถึงการขึ้นรถจิ๊ปคันสีแดงเบอร์ 29 ซึ่งเป็นรถแห่หาเสียงที่อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยขึ้นหาเสียงมาก่อนหน้านี้และได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีว่า พรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีสองคน
ขณะที่ นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้วันหาเสียงสุดท้ายมายืนอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร มหานครที่มีศักยภาพสูง และเป็นมหานครที่ควรจะเป็นที่คนรุ่นใหม่สามารถสร้างตัวสร้างอาชีพได้ และย้ำความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในทุกมิติ ในการเป็นรัฐบาลหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เข้าคูหากาเพื่อไทย 2 ใบ
และจากบรรยากาศขึ้นรถแห่หาเสียงเห็นสองข้างทางประชาชนให้การต้อนรับได้ทำให้มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยพรรคเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์สไลด์ และด้วยสถานการณ์ประเทศในขณะนี้ชี้ว่าไม่มีเวลาแล้วกับมือใหม่ที่จะมาหัดขับ โดยพรรคเพื่อไทยพร้อมทุกวิกฤตที่เคยได้ผ่านมาแล้วและมีบทพิสูจน์มาแล้ว และพรรคเพื่อไทยทุกคนมีความพร้อมในวันแรกในการทำงานที่เข้าทำเนียบรัฐบาล ส่วนเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลคือจะต้องมีนโยบายที่ไปด้วยกันได้ และพรรคการเมืองที่มีรากเหง้ามาจากการทำรัฐประหารเพื่อไทยไม่เอา
และย้ำว่ายุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องชนะแบบขาดลอย หากประชาชนเข้าใจถึงปัญหาของบ้านเมืองถ้ามีเลือกพรรคเพื่อไทยให้ขาด ตอนนี้เราเป็นรอง อยู่ 250 เสียง ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมากที่จะต้องชนะให้ขาด และเชื่อว่าประชาชนจะรับทราบ ว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยฝ่ายประชาธิปไตยไม่เอาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เลือกตั้ง 2566 : รทสช.-พท.-ภท.-พปชร.จัดรถแห่ขอเสียงรอบกรุง
“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ “9 ปียอมถอย” ชวน 14 พ.ค.นี้ เลือกตั้งให้ถล่มทลาย