‘ธนกร’ เผยรอดูผู้ใหญ่ในพรรค รทสช.คุยอนาคตทางการเมือง ยอมรับให้พรรคได้คะแนนอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล โยนกรรมการบริหารฯตัดสินใจ คาด ‘ประยุทธ์’ คงพอกับเส้นทางการเมือง
ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่า ขอขอบคุณประชาชนทั้งประเทศที่ให้ความไว้วางใจและเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอบคุณทุกกคะแนนเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ถือว่าเป็นไปตามเป้า และพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช คะแนนของบัญชีรายชื่อสูงมากที่สุด ต้องขอบคุณคนนคร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน
ส่วนอนาคตทางการเมืองของพรรค ธนกร ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคอย่างไม่เป็นทางการ และการจัดตั้งรัฐบาลต้องให้ผู้ที่มีคะแนนเสียงอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติก็ต้องรอดู ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ให้กำลังใจกันและกัน ส่วนตัวเองมาอยู่รวมไทยสร้างชาติ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเอาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ในพรรคเองพูดคุยกันได้ทุกคน ย้ำทุกคนในพรรคยังให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นเดียวกัน ส่วนกระบวนการตัดสินใจเรื่องต่างๆ อยู่ที่พรรคและ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตัดสินใจอย่างไร
พร้อมระบุว่าช่วงนี้ นายกรัฐมนตรี ยังต้องทำงานตามปกติ โดยเน้นย้ำให้ตนเองทำงานให้เต็มที่ในช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ เพราะอีกประมาณสามเดือน ช่วงรักษาการทำงานให้เต็มที่ ตัวเองทำหน้าที่อย่างเต็มที่และไม่รู้สึกเสียใจอะไรจริงๆ แล้วการเมืองก็อยู่กันมาพอสมควร มีแพ้มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา ก็ขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไทย เพื่อไทย และหลายพรรคที่ได้คะแนนมาจำนวนมาก และอยู่ที่แต่ละพรรคจะมีวิธีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีการมองว่าอาจมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เรื่องนี้คาดเดาไม่ได้ แต่พวกเรามีสปิริตทางการเมืองอยู่แล้ว ต้องให้พรรคที่ได้อันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล หากอันดับหนึ่งจัดไม่ได้ ก็เป็นอันดับสอง ก็เป็นเรื่องปกติที่เคยปฏิบัติกันมา ส่วนตัวหากได้เป็นฝ่ายค้านก็พร้อมทำหน้าที่ ไม่มีปัญหาอะไร การเมืองก็ไม่เรื่องของทั้งหมด เราอาสาเข้ามาทำงานให้กับประชาชนอยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้ไม่มีปัญหา
ส่วนในทางการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร พรรครวมไทยสร้างชาติ มีโอกาสถูกจีบไปร่วมพรรครัฐบาลหรือไม่ ธนกร ระบุว่า ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าการเมืองเป็นไปได้หลายหน้า เพราะรู้จักกันทั้งนั้น ทุกพรรคเวลาลงสนามเลือกตั้งก็ว่าไปตามเกมแต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็คุ้นเคยกันหมด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะตัดสินใจอย่างไร พร้อมย้ำว่าตนเองพอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวเป็นห่วงและอยากให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่า และไม่ได้กังวลจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะเลยจุดนั้นมาแล้ว
แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเมตตา จึงเป็นห่วง และได้พูดคุยว่าจะไปขอพูดคุยนั่งกินข้าวกับ พล.อ.ประยุทธ์บ่อยๆ ในอนาคต สำหรับการทำงานทางการเมืองของนายก ไม่ได้เปรยกับตนว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าท่านคงจะพอแล้วมั้งครับ คิดว่าท่านก็ทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิต และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมาตลอด 8 ปีที่เป็นนายกฯ และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้ว่านายก ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศมามากมาย ไม่มีเรื่องเสียหาย เรื่องคอรัปชั่น อย่างน้อย พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ในใจคนไทยอีกยาวนาน ดังนั้นให้กำลังใจดีกว่า ไม่ได้รู้สึกพ่ายแพ้แล้วต้องเป็นอะไร ย้ำการเมืองก็เป็นอย่างนี้
ขณะเดียวกัน มองว่าหากพรรคการเมืองจะทำการเมืองต้องปรับตัวเหมือนกัน การเมืองแบบเก่ามากเกินไปก็ไปยาก ต้องผสมผสานระหว่าง ต้องนำคนทุกรุ่นเข้ามาด้วยกัน เพราะเห็นว่า ส.ส. แม้จะลงพื้นที่ต่อเนื่องช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยาก ก็ไม่ใช่เสมอไปที่จะได้รับเลือกเข้ามา
