‘เพื่อไทย’ ยินดีชัยชนะ ‘ก้าวไกล’ ยกหน้าที่ให้รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่ได้หารือรายละเอียด แต่พร้อมสนับสนุน ‘แพทองธาร’ เผย ‘พิธา’ โทรมายินดี หวังชัยชนะครั้งนี้พาประเทศเดินหน้า ขณะ ‘เศรษฐา’ ย้ำชัด มาตรา 112 เป็นเงื่อนไขสำคัญจับมือ
วันที่ 15 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ ภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวขอบคุณคะแนนเสียง และท่าทีในการจัดตั้งรัฐบาล
โดย นพ.ชลน่าน แถลงว่า ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎแล้วว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และร่วมสนับสนุนเลือกพรรคเพื่อไทยและฝ่ายประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น อันแสดงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตย ในโอกาสนี้ พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง
โดยกติกาประชาธิปไตย และโดยสัญญาประชาคมที่พรรคเพื่อไทยได้เคยแถลงต่อพี่น้องประชาชนไว้ พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดี และยอมรับที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเป็น แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และเห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะเชิญพรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลตามที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลงไว้ พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า ไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล
พรรคเพื่อไทยเห็นว่าในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นในการหารือและกระบวนการต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายดำเนินการ ระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาล หน้าที่ในการดำเนินการเรื่องนี้เป็นของพรรคแกนนำในการดำเนินการ เรายินดีและพร้อมจะสนับสนุน อยู่ที่พรรคก้าวไกลจะเริ่มอย่างไร สวนในรายละเอียดเป็นเรื่องของกรรมการบริหารที่จะต้องพูดคุย
เมื่อถามว่า 2 พรรครวมกันได้ 309 เสียง จะสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า 309 เสียง สามารถเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งได้แน่นอน แต่การโหวตนายกรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามกฎหมาย ใช้เสียง 376 เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะนำพรรคภูมิใจไทยมาร่วมนั้น นพ.ชลน่าน ตอบว่า เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะไม่ก้าวล่วง กระบวนการเพิ่งเริ่ม ยังไม่กำหนดเวลาว่าจะสรุปจบเมื่อใด พรรคแกนนำจะเป็นผู้กำหนดประเด็น ยังไม่เห็น MOU ของพรรคก้าวไกล เพราะยังไม่ได้หารือ เป็นหน้าที่พรรคแกนนำในการรวบรวมเสียงโหวตนายกฯ เรามีหน้าที่สนับสนุน
ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลทุกอย่างเป็นไปยังราบรื่นก็เป็นประโยชน์ของประชาชนที่ออกเสียงมา ส่วนเงื่อนไขที่ไม่สามารถรวมกันได้นั้น นพ.ชลน่าน ชี้ว่า ต้องคุยรายละเอียดของพรรคก้าวไกลในฐานะเป็นผู้เสนอประเด็นมา
หวังชัยชนะครั้งนี้พาไทยเดินหน้า
ด้าน แพทองธาร เผยว่า เมื่อครู่ได้ฟังแถลงของพิธาเช่นกัน ได้คุยโทรศัพท์กันเมื่อเช้านี้ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวที่พรรคก้าวไกล เป็นการโทรมาแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดใดๆ และตนก็สนับสนุนเรื่องที่พรรคก้าวไกลได้รับเสียงข้างมากจากประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล
“เราเคยทำงานในพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน การพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ ของพรรคก้าวไกลถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนการพูดคุยในรายละเอียดและนโยบายและเงื่อนไขต่างๆ ต้องรอให้มีกรรมการบริหารพรรคก่อน”
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมจะโหวตนายกฯ จากพรรคก้าวไกลหรือไม่ แพทองธาร ระบุว่า แน่นอน เพราะทางพรรคก้าวไกลได้รับเสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 เราต้องเคารพเสียงของประชาชน
สำหรับเงื่อนไขของมาตรา 112 นั้น แพทองธาร ตอบว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนที่มั่นคงที่จะไม่สนับสนุนการยกเลิกมาตรา 112 แต่สนับสนุนให้เกิดการพูดคุยหารือในสภา ส่วนกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้เยาวชนติดคุกพร้อมนำมาพูดคุยและรับฟัง และต้องเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พูดคุยกับทางพรรคก้าวไกลด้วยว่า เพื่อไทยไม่สนับสนุนการยกเลิก
อย่างไรก็ตาม เรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้คุยกัน มีเพียงตนเท่านั้นที่ได้คุยกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทางโทรศัพท์เมื่อช่วงเช้า โดยยังไม่ใช่การพูดคุยในรายละเอียด ส่วนข้อเสนอที่จะนำไปยื่นให้กับทางก้าวไกลมีอยู่ในใจแล้ว
แพทองธาร ยังระบุว่า การโทรศัพท์ใช้เวลาไม่นานประมาณ 3-4 นาที โดย พิธา เป็นฝ่ายโทรมา ตนแสดงความยินดีด้วยก่อน แล้วพิธาก็บอกว่ายินดีด้วย และชมว่าอุ้มท้องหาเสียง เข้าใจความรู้สึกเพราะเป็นคุณพ่อเหมือนกัน
เมื่อถามถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ตอบว่า การจะกลับมาประเทศไทยของนายทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงเป็นไปตามกำหนดเวลาเดิมที่นายทักษิณได้เคยระบุไว้ คือภายในเดือน ก.ค.
แพทองธาร ยังกล่าวว่า การเลือกตั้งก็เหมือนกีฬามีผู้แพ้และผู้ชนะ อันดับ 2 ต้องมีความผิดหวังอยู่บ้าง เพราะเราคิดว่าเราจะเป็นอันดับ 1 แต่เราก็ยอมรับเพราะมันคือน้ำใจนักกีฬา อันดับ 1 เราแสดงความยินดีด้วย และเราก็เชียร์เพื่อประชาธิปไตยเพื่อประเทศชาติที่จะสามารถไปต่อได้ จากนั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องของการเมือง ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
เมื่อถามว่าต้องประเมินหรือไม่ว่าจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทยที่ทำให้พ่ายแพ้ครั้งนี้คืออะไร แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายของเราค่อนข้างตอบโจทย์ประเทศชาติ แต่เข้าใจว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง พรรคก้าวไกลก็มีจุดแข็งของเขา อย่างไรก็ต้องขอบคุณประชาชนที่เลือกเราในพื้นที่ และแสดงความยินดีกับ ส.ส.ที่ได้เข้าสภา ส่วนคนที่ไม่ได้ ก็ต้องแสดงความยินดี เพราะได้ลงพื้นที่อย่างหนัก
“เราไม่ได้คิดว่าจะชนะครั้งต่อไปอย่างไร เอาชนะครั้งนี้นี่แหละ จะทำให้ประเทศก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไรมากกว่า” แพทองธาร กล่าว
ย้ำเงื่อนไขสำคัญมาตรา 112
ขณะที่ เศรษฐา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษ โดยเน้นย้ำว่า รายละเอียดของการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เรายังไม่ได้เริ่มการพูดคุยหารือใดๆทั้งสิ้น ขอให้รอจนถึงการประชุมนัดแรก ถึงจะสามารถให้คำตอบที่ดีกว่านี้ได้
เศรษฐา ยังตอบคำถามว่า หนึ่งในประเด็นที่อาจจะเป็นเงื่อนไขให้ไม่สามารถร่วมมือกันได้ ยกตัวอย่างเช่นการยกเลิกมาตรา 112
“วันนี้เป็นวันที่เราควรเฉลิมฉลองให้กับเสียงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และแสดงความยินดีกับ พรรคไกลที่ได้รับชัยชนะ รวมถึงนายพิธาที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และรัฐบาลที่เราจะจับมือร่วมกัน ประชาชนบอกเราว่า และเชื่อมั่นในประชาธิปไตยและต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” เศรษฐา กล่าว