กกต. ปลื้มคนใช้สิทธิ 75.22% สูงสุดในประวัติการณ์ เผยผลล่าสุด ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ ยืนหนึ่งคว้าเขต 112 ที่นั่ง พร้อม 17 พรรคการเมืองคว้าเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์
วันที่ 15 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. แถลงภาพรวมภายหลังประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวน 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิ์ประมาณ 52,000,000 ล้านคน คิดเป็นจำนวน 75.22% ถือได้ว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดที่ กกต. เคยจัดการเลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 7 ที่ กกต. ได้จัดงาน อีกทั้งในการเลือกตั้งปี 2562 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิอยู่ที่ 74.87% จึงถือเป็นตัวเลขที่น่ายินดี และสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจการเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายขึ้นมา
อิทธิพร กล่าวอีกว่า พื้นฐานของการนับคะแนนหน้าหน่วยทั้ง 95,137 หน่วย เมื่อรวมแล้วเอาผลคะแนนหน้าหน่วยมารวมกัน เราจะได้คะแนนทั้งหมด และเราตั้งใจทำให้ลุล่วงชัดเจนตั้งแต่ประมาณ 22.00-23.00 น.แต่มีความผิดพลาดตรงที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากความพยายามของผู้ปฏิบัติงานที่จะทำให้มั่นใจว่า การรายงานผลการนับคะแนนที่รวดเร็วต้องถูกต้องเป็นหลัก จึงขอบคุณประชาชน และสื่อมวลชนที่ติดตามการรายงานผลอย่างใกล้ชิด
สำหรับผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ได้แก่ พรรคก้าวไกล 112 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 112 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 68 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 39 พรรครวมไทยสร้างชาติ 23 พรรคประชาธิปัตย์ 22 พรรคชาติไทยพัฒนา 9 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 7 ที่นั่ง พรรคไทยสร้างไทย 5 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 ที่นั่ง และพรรคชาติพัฒนากล้า 1 ที่นั่ง
ขณะที่ผลเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 17 พรรค ได้แก่ พรรคก้าวไกล 39 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 29 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 3 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 3 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 2 ที่นั่ง และพรรคที่เหลือจำนวน 1 นั่ง ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคใหม่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรครูไทยเพื่อประชาชน
สำหรับปัญหาที่พบในการเลือกตั้ง พบว่า หน่วยเลือกตั้งที่ 10 จ.นครปฐมที่ต้องงดการลงคะแนนเพราะพายุฝนทำให้เต็นท์ล้มเสียหายจนไม่สามารถดำเนินการลงคะแนนเลือกตั้งได้ ส่วนรายงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องพบว่า มีการฉีกบัตร 24 ราย จำหน่ายสุราในเขตเลือกตั้ง 7 ราย และถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่มีการลงคะแนน 4 ราย และในส่วนคำร้องจนถึงบัดนี้ มีคำร้อง 168 เรื่อง ประกอบไปด้วย การซื้อเสียง 59 เรื่อง การหลอกลวงใส่ร้าย 58 เรื่อง เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งมิชอบในการหาเสียง 18 เรื่อง และอื่นๆ
ประธาน กกต. ระบุอีกว่า ทั้งนี้เมื่อปี 2562 มีคำร้องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งหมด 592 เรื่อง หวังว่า พัฒนาการของการมีส่วนร่วมทางการเมืองจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะในการเลือกตั้งปีนี้คำร้องมีน้อยกว่าเมื่อกี 2562 เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย ทั้งผู้สมัคร และประชาชน ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่มีใครฝ่าฝืน
อย่างไรก็ตาม ฝากให้ผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิ์ภายใน 7 วัน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 พ.ค. ทั้งนี้ กระบวนการประกาศผลการเลือกตั้ง หลังจากนี้ กกต. มีหน้าที่ประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบผลการเลือกตั้งการลงคะแนน หลังจากนั้นต้องดูว่า มีคำร้องอะไรที่ทำให้ กกต. ต้องมาพิจารณาว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นสุจริตและเที่ยงธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักเกณฑ์ในการพิจารณาออกใบส้ม ใบเหลือง ใบแดง คืออะไร อิทธิพร กล่าวว่า สำหรับใบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ใบส้ม ต้องยื่นแก่ศาลฎีกาตัดสิน แต่ใบส้ม กกต. เป็นผู้ให้ตามความผิดต่างๆ ตามกรอบกฎหมายเลือกตั้ง และพรรคการเมือง ส่วนใบอื่นๆ ขึ้นอยู่กับว่า คำร้องของคดีนั้นเห็นว่า ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษอย่างไรบ้าง เช่น เพิกถอนสิทธิ หรือรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ประธาน กกต. ชี้ปม ‘พิธา’ ถูกร้องถือหุ้นไอทีวีเป็นไปตามกระบวนการ
ทั้งนี้อิทธิพรยังกล่าวถึงการประชุมของ กกต. เพื่อพิจารณากรณี กรรมการประจำหน่วย (กปน.) ฉีกบัตรเลือกตั้งว่า อำนาจในการแจกบัตรเลือกตั้งเป็นของ กปน. และทางกปน. ได้พิจารณาเห็นแล้วว่า ไม่ได้เกิดมาจากเจตนาของใคร เพียงแต่ตอนแจกบัตรไม่ได้ตรงตามรอยปะ ซึ่งทาง กกต. เห็นว่า หาก กปน. พิจารณาแล้วก็ถือเป็นอำนาจของทาง กปน.
ขณะที่สถานการณ์การประท้วงให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ที่เขตบางพลัด อิทธิพร ระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ กปน. ในขณะนั้นไม่ใช่การนับคะแนน แต่เป็นการส่งคืนวัสดุอุปกรณ์ จึงอาจทำให้ประชาชนเข้าใจเป็นอย่างอื่น แต่ทั้งนี้บางพลัดไม่ใช่เขตหลักในการนับคะแนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงการคัดค้านให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งใน กทม. เขต 20 หรือเขตลาดกระบัง แสวง บุญมี เลขาฯ กกต. ระบุว่า หากจะมีการทักท้วงในระหว่างการนับคะแนนต้องทักท้วงในระหว่างที่มีการนับคะแนนว่า กรรมการประจำหน่วยทำถูกต้องหรือไม่ แล้วหลังจากนั้นจึงต้องนำมาร้องต่อ กกต. โดยเร็ว
เมื่อถามว่า มีบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรที่มีปัญหาบ้างหรือไม่ อิทธิพร กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินข่าวนี้ แต่ในส่วนของตน บัตรเลือกตั้งจากนอกราชฯ ที่มีจำนวน 100,000 กว่าใบนั้นมาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. ซึ่งสถานกงสุลมีการแยกตามแต่ละหน่วยเลือกตั้งก่อนส่งมอบให้แก่ไปรษณีย์เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีคำร้องถึงการถือหุ้น ITV จะมีผลต่อการรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ อิทธิพร ระบุว่า เป็นกระบวนการของศาล จะพูดว่ามีผล หรือไม่มีผลคงไม่เหมาะสม แต่เมื่อเป็นคำร้องมาแล้วเราก็ต้องให้ คณะกรรมการสอบสวนไต่สวน และดำเนินการสืบสวนพยานข้อเท็จจริงต่อไป จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการของ กกต. ที่จะต้องวินิจฉัยตามลำดับต่อไป
