วันนี้ (21 พ.ค.2566) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เชิญไปให้ถ้อยคำ กรณีร้องขอให้ตรวจสอบนายสุรพงษ์ กับนายณัฐวุฒิ โพสต์เฟซบุ๊กเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่
และก่อนให้ถ้อยคำในวันดังกล่าวจะถือโอกาสยื่นเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้น ITV รวม 2 รายการ ประกอบด้วย ตารางรายชื่อผู้ถือหุ้นตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2566 พร้อมเอกสารประกอบ และตารางรายได้รวมของ ITV ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2565 พร้อมเอกสารประกอบ (ยกเว้นปี 2555)
นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีที่นายพิธา มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น ITV มาตั้งแต่ปี 2551 นั้น พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 62 วรรคสาม บัญญัติว่า “ทะเบียนผู้ถือหุ้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกต้อง” ซึ่ง ITV เคยมีรายได้ปี 2549 ประมาณ 2,158 ล้านบาทเศษ ส่วนปี 2550 ประมาณ 352 ล้านบาทเศษ โดยรายได้ปี 2549 และปี 2550 ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจสื่อ
แต่ปีต่อๆ มา รายได้ลดลงทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน เพราะ สปน.บอกเลิกสัญญา แต่ ITV ไม่เห็นด้วย จึงมีการฟ้องร้องกันอยู่ในศาลปกครอง คดียังไม่ถึงที่สุด สัญาที่ถูกยกเลิกจะครบกำหนดวันที่ 3 ก.ค.2568
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า หลักฐานที่จะยื่นเพิ่มเติมในวันที่ 24 พ.ค.นี้ น่าจะช่วยทำให้ กกต.พิจารณาได้เร็วขึ้น และคาดว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่านายพิธา เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) หรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง2566: “เรืองไกร” ฟ้อง กกต.ปม “พิธา” ถือหุ้นสื่อ-ชี้ไม่ถึงขั้นยุบพรรค