หากภาพการจับมือจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมทั้ง 8 ภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล คือ การเมืองเรื่องของภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นสัญญาณเตรียมความพร้อมขององค์กรทางการเมืองที่พร้อมเดินหน้าบริหารประเทศต่อจากรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา
ความพร้อมดังกล่าวมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, พรรคเพื่อไทรวมพลัง, พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ เป็นองค์ประกอบ
หากกล่าวเฉพาะพรรคใหญ่และพรรคขนาดเล็ก ที่นักการเมืองหน้าเก่า ฟากฝ่ายค้านเดิมในอดีต กรอภาพกลับในวันนั้น ภายใต้บรรยากาศยิ้มแย้มที่ดูเคร่งเครียดอึดอัดและอึมครึม ไม่ครึกครื้นอย่างที่ควรจะเป็น
เป็นบรรยากาศท่ามกลางไร้เสียงขานรับจากภาคธุรกิจ หากวัดจากภาพในตลาดหุ้นที่แดงทั้งกระดาน ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันนี้ (22 พ.ค) ที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงหลังเปิดตลาด 16.21 จุด (-1.07%) อยู่ที่ระดับ 1,498.68 จุด หลุดระดับ 1,500 จุดโดยมูลค่าการซื้อขาย 2,773.64 ล้านบาท
ดัชนีทำระดับต่ำสุดที่ 1,498.17 จุด และแตะระดับสูงสุดที่ 1,506.15 จุด โดยการปรับตัวลดลงของดัชนีเช้านี้ ปฎิเสธไม่ได้ว่า คือ สัญญาณตอบรับความไม่แน่นอนทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะทางการเมือง จึงส่งผลให้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดันตลาด
การกำหนดและเลือกวันที่ 20 พ.ค. เวลา 16.30 น. นัดหมายทำบันทึกข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล ก็ปฎิเสธไม่ว่าคือ “อีเวนต์” หนึ่งที่ล้อเวลาโดยใช้ฤกษ์แถลงข่าวการปฎิวัติรัฐประหาร เมื่อปี 2557 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นปิดในวันนี้ ได้สะท้อนให้เห็นผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว
ตัดกลับมาที่ภาพของพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล ในการทำบันทึกข้อตกลง หรือ MOU เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. สะท้อนให้เห็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังถาพถ่ายทางการเมือง และจะให้เกิดผลลัพธ์ทางการเมืองอย่างไร
แม้บันทึกข้อตกลงของ 8 พรรคร่วมจะมีถึง 23 ข้อ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 นั้น ทีมเจรจาระบุว่า จะใช้กลไกของพรรคก้าวไกลผลักดันต่อในสภา แต่ MOU เขียนชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ เป็นข้อเท็จจริงว่า ขณะนี้การทำบันทึกข้อตกลงของว่าที่รัฐบาลใหม่ ยังไม่มีมรรคผลในทางปฎิบัติ
แต่ในแง่จิตวิทยาการเมือง ถือว่าการถอดปลั๊กในประเด็นละเอียดอ่อน ก็สามารถลดความตึงเครียดให้กับพรรคร่วมรัฐบาลได้ระดับหนึ่ง ส่วนจะมากน้อยอย่างไร คำตอบจากตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค) ก็จะชี้ให้เห็นแนวโน้มสถานการณ์ดังกล่าวได้
อีกมุมหนึ่งของเสียงข้างน้อย ทุกพรรคยังสงบนิ่ง แต่ไม่วายมีกระแสข่าว พลังประชารัฐเปิดดีลหอบ 16 ส.ส. หนี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ไปซบรวมเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล โดยดึง “ชาติไทยพัฒนา” เข้าไปร่วมด้วย ยังไม่รวมถึงกระแสความพยายามจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหน้าที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่รู้ ลึกๆ แล้วจะมีดีลลับ ดีลรอง ที่เป็นวาระซ่อนเร้นอยู่ในซอกหลืบเหลี่ยมมุมใด หรือไม่เพราะในโลกของความจริง การเมืองไทยไม่ได้มีแค่ฉากเดียว และทุกหัวหน้าพรรคการเมืองเข้าร่วมบรรยากาศนี้ น่าจะให้คำตอบได้ดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วินาทีประวัติศาสตร์ 8 พรรคลงนาม MOU ตั้ง “รัฐบาลก้าวไกล” ตัดมาตรา 112
เลือกตั้ง2566 : เปิด (ร่าง) MOU ฉบับตั้งรัฐบาลก้าวไกลก่อนลงนาม 16.30 น.
เลือกตั้ง2566: ย้อนศร “รัฐประหาร” 22 พ.ค. ถือฤกษ์ 16.30 น.ลงนาม MOU ตั้งรัฐบาล