วันนี้ (25 พ.ค.2566) นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัย กล่าวถึงบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ประธานสภาคนใหม่ว่าต้อง ทำตัวเป็นกลาง ต้องดูแลสภาให้เรียบร้อย ตามข้อบังคับ คือ มีหน้าที่ควบคุมการประชุมให้เรียบร้อยและวางตัวเป็นกลาง
ส่วนกรณีที่ก้าวไกลกับเพื่อไทย ต่างอยากได้เก้าอี้ประธานสภานั้น นายอุทัย กล่าวว่า อยากได้ก็ส่วนอยากได้แต่อยู่ที่เสียงข้างมากจะให้ใคร ส่วนเรื่องความอาวุโสสมัยนี้ ตัดไปได้ เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดเรื่องความอาวุโสหรือวัยวุฒิไว้แล้ว ให้อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีเมื่อเป็น ส.ส.ได้ก็เป็นประธานสภาได้ แต่พรรคจะยอมรับหรือไม่ ถ้าเป็นแล้วต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่น่าเกลียด
พรรษาทางการเมือง ไม่สำคัญเท่ากับความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเองขนาดไหน ทำตัวให้เป็นที่น่าเชื่อถือของสมาชิกได้มากน้อยแค่ไหน
นายอุทัย ไม่ขอให้ความห็นทางการเมืองเพราะวางมือทางการเมืองไปแล้ว แล้วแต่ผู้มีอำนาจทางการเมืองจะว่ากันไป แต่มีความหวัง ฝากสภาฯชุดใหม่ ว่า ประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งสำคัญมีส่วนทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ถ้ามีอะไรที่จะทำให้สงบเรียบร้อยก็ทำ ถ้าทำแล้วไม่สงบ ก็ต้องไม่ต้องทำ เมื่อเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแล้วต้องใหญ่ให้เป็น อายุน้อยก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอายุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง2566 : “ศิริกัญญา” แถลงย้ำก้าวไกลต้องได้ตำแหน่ง “ประธานสภา”
เลือกตั้ง2566 : “ก้าวไกล” ย้ำต้องใช้สถานะ “ปธ.สภา” ผลักดัน 3 วาระสำคัญ
วิวาทะ “เพื่อไทย-ไทยสร้างไทย” ดีลตั้งรัฐบาลสั่นคลอน
ผลการเลือกตั้ง2566 : กกต. เตรียมประกาศผลเลือกตั้งทางการ ส.ส.ก้าวไกล เหลือ 151 คน
วิเคราะห์ : “เพื่อไทย-ปิยบุตร” เปิดศึกวิวาทะ ชิงเก้าอี้ “ประธานรัฐสภา”
เลือกตั้ง2566 : “รังสิมันต์” ย้ำ “ก้าวไกล” ไม่ปล่อยตำแหน่ง “ปธ.สภาฯ” ให้พรรคอื่น