‘อนุสรณ์’ ยัน ‘เพื่อไทย’ หนุนเต็มที่ ‘พิธา’ นายกฯ ส่วนประธานสภาฯ เชียร์ ‘ชลน่าน’ เหมาะสม แนะเปิดกว้างเลือกประธานสภาฯ ยกเป็นสิทธิ ส.ส.จะฟรีโหวต เมินข้อเสนอยุ ‘เพื่อไทย’ ถอนตัวเป็นฝ่ายค้าน ย้ำต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลแก้ปัญหา
วันที่ 26 พ.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ว่า กรณีดังกล่าวเหมือนเรากำลังหมั้นรอแต่งงาน แต่คนเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะโดนถามว่าจะนอกใจหรือไม่ ตนเห็นว่าหลังนพ.ชลน่านแสดงความเห็นก็ควรจบได้แล้ว และกรณี น.ต.ศิธา ก็ต้องจบได้แล้ว ถ้าไม่มีการขยายแผลเปิดปมจะไม่มีการฉายซ้ำจากคนของพรรคเพื่อไทย แต่ น.ต.ศิธา เป็นซูเปอร์สตาร์จากวงดีเบตในการเลือกตั้ง และ ตอนลงสมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ก็แพ้ รสนา โตสิตระกูล อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. วันนี้ดีเบตจบแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาหาแสงกับตัวเอง หรือบ่อนแซะทำลายพรรคเพื่อไทย หรือสร้างความเคลือบแคลงให้พรรคเพื่อไทย ถ้า น.ต.ศิธาจริงใจ พฤติกรรมใดก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้ง น.ต.ศิธา ต้องเลิก อย่าบอกแต่ปากขอโทษแล้วจบแล้ว ตนถามว่า น.ต.ศิธาที่เคยพูดลาออกสมาชิกพรรคนั้น วันนี้ได้ลาออกแล้งหรือยัง ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทยมี 6 เสียงเท่านั้น ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน
อนุสรณ์ เชื่อว่าทุกฝ่ายจะร่วมกันสร้างบรรยากาศให้การเมืองเดินไปข้างหน้าได้ พรรคเพื่อไทยมาที่2 แต่ไม่ได้แพ้ แต่บังเอิญยิงประตูน้อยกว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ก็จะได้ขับเคลื่อนนิติบัญญัติ อีกทั้ง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็เคยโพสต์เราชนะไปด้วยกัน
อนุสรณ์ ระบุว่า ทุกการแสดงความเห็นของพรรคเพื่อไทยต้องระวัง โดยขณะนี้พรรคจะให้พื้นที่การทำงานเพื่อให้วงเจรจาเดินหน้าได้ก่อน ในเรื่องประธานสภาฯ ถ้าเอาแบบคณิตศาสตร์การเมืองมาคิด เมื่อพรรคก้าวไกลที่1 จะเอาประธานสภาฯ ก็ไม่ผิด แต่วันนี้พรรคก้าวไกลได้นายกฯ ซึ่งเป็นประมุขฝ่ายบริหารไปแล้ว ในทีมของ8 พรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามองพรรคก้าวไกลที่1 ก็เห็นแต่ณัฐวุฒิ บัวประทุม ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นพ.ปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล หรือไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถ้าถอยมา ก็ไม่ได้มีแต่พรรคก้าวไกล ขณะนี้มีโจทย์ใครเหมาะสมประธานสภาฯ ซึ่งต่างจากพรรคก้าวไกลจะหาใครเหมาะสมประธานสภาฯ มากกว่า
อนุสรณ์ระบุว่า ถ้าประธานสภาฯ เป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้นผลลัพธ์จะต่างจากประธานสภาฯของ 8 พรรคร่วม และประธานสภาฯ ควรเปิดกว้างในการเลือกในสภาฯ ด้วย
ส่วนกรณีมีการมองว่า หากพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีอุบัติเหตุทางการเมืองจากกรณีถือหุ้นไอทีวี และจะทำให้พรรคก้าวไกลอาจไม่ได้ประธานสภาฯ นั้น อนุสรณ์ ระบุว่า กรณีจะเกิดส้มหล่นหรือไม่ส้มหล่นก็ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ซึ่ง พิธายอมรับเองว่าถือหุ้นไอทีวี ส่วนจะได้มายังไงเป็นเรื่องของพิธา และคนร้องก็ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย แต่คนชี้เป้าเป็นคนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกร้องโดย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตนยืนยันพรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน พิธา เป็นนายกฯ คนที่30 ถ้าพิธาเป็นนายกฯ พรรคเพื่อไทยก็จะช่วยเต็มที่ ถ้าได้ นพ.ชลน่าน เป็นประธานสภาฯ ตนถามว่า กลิ่นความเจริญจะหายหรือไม่ และถ้าส.ส.จะฟรีโหวต เลือกประธานสภาฯ ก็ถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ
“ถ้าคุณพิธาไม่รอดก็ไม่เกี่ยวพรรคเพื่อไทย แต่เป็นเรื่องกระบวนการต่อไป” อนุสรณ์ ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยมายื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน อนุสรณ์ ระบุว่า คนเลือกพรรคก้าวไกล มี14 ล้านคน ส่วนคนไม่ได้เลือกมี 27 ล้าน กองเชียร์พรรคก้าวไกลก็บอกให้ถอนตัวร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ ตนมาตั้งสติจะเป็นฝ่ายค้านทำไม เพราะเรารวมเสียงกันได้ขนาดนี้ ให้ยึดประโยชน์ของประเทศชาติ
“แฟนคลับจะมาพรรคเพื่อไทยก็มาได้ หรือจะเสนอให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวก็ทำได้ แต่ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่แพ้การเลือกตั้ง เพียงแต่เข้ามาที่2 ทุกเสียงเรารับฟังแต่ตอนนี้โอกาสดีที่ต้องฟื้นฟูประเทศ ดังนั้นตัองให้พรรคการเมือง 8 พรรคเข้าไปแก้ปัญหา” อนุสรณ์ ระบุ