วันนี้ (30 พ.ค.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และ พรรคพลังสังคมใหม่ แถลงภายหลังการหารือ โดยระบุว่า 8 พรรค ตั้ง 7 คณะแรกทำงานช่วงเปลี่ยนผ่าน
1. คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันดีเซล และพลังงาน
2. คณะทำงานเกี่ยวกับ ปัญหาภัยแล้ง เอลนีโญ
3. คณะทำงานเกี่ยวกับ ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
4. คณะทำงานเกี่ยวกับ แก้ไขรัฐธรรมนูญ
5. คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และ PM2.5
6. คณะทำงานเกี่ยวกับ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และเอสเอ็มอี
7. คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด
การกำหนดคณะนี้ตั้งตาม MOU ทั้งหมด 23 ข้อ โดยวันนี้ตั้งคณะทำงานไปแล้ว 7 คณะ และจะมีการประชุมเพื่อตั้งคณะทำงานเพิ่มอีก โดยใช้บุคลากรของแต่ละพรรคที่มีความเชี่ยวชาญ จนกว่า กกต. จะรับรอง ส.ส.เสร็จสิ้น
โดยคณะทำงานจะมีตัวแทนของแต่ละพรรคในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ และจะมีการประชุมต่อเนื่องและรายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการประสานงานต่อไป และจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การกลั่นกรองเป็นนโยบายเพื่อแถลงต่อรัฐสภาต่อไป และนำไปปฏิบัติในฐานะรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป
ยืนยันว่าการทำงานเป็นไปได้ด้วยดี เราจะสามัคคีกัน เพื่อทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ให้มากที่สุด
ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวว่า การจัดสรรตำแหน่งฝ่ายบริหารจะเกิดขึ้นภายหลังจากการทำงานร่วมกัน โดยยึดวาระการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ตำแหน่งประธานสภา พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทยจะพิจารณา ร่วมกัน โดยยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประชาชน
ขณะนี้ กกต. ประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเแล้ว เหลือเพียงการรับรอง ส.ส.อย่างเป็นทางการ เพื่อที่จะเปิดการประชุมสภาได้ ซึ่งหวังว่า กกต. จะใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว และแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ในวาระต่าง ๆ
“พิธา” ยืนยันกัญชาทางการแพทย์ทำได้
ผู้สื่อข่าวถึง กรณีการปรับขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวัน กรณีกัญชาเสรี และสมรสเท่าเทียม นายพิธาตอบว่า เรื่องค่าแรงจะให้คณะกรรมการที่ดูเรื่องเศรษฐกิจพิจารณาร่วมกัน เบื้องต้น หลังการหารือกับ ส.อ.ท. และ สภาหอการค้าฯ นั้นยังต้องคุยกันว่า มีความจำเป็นทั้งในการขึ้นให้ครบ 450 บาท ทั้งต่อ GDP และเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และผลิตภาพแรงงานที่โตขึ้น ตัวเลขที่เหมาะสมควรจะเป็นแบบนั้น ขณะที่ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะรับฟังและใช้คณะกรรมการในการรับฟัง
ขณะที่กัญชานั้นต้องหาจุดสมดุลที่ตรงกัน ทั้ง 8 พรรค ส่วนใหญ่เห็นว่า กัญชาทางการแพทย์สามารถทำได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นยาเสพติดก็ยังได้อยู่ และสถานการณ์ต้องมีการควบคุมจัดโซนนิ่ง หรือ โทษในการพกในที่สาธารณะ และพี่น้องในแวดวงกัญชาและเปิดร้านไปแล้ว โดยทำถูกต้องทุกอย่าง ก็จะมีแนวทางที่คณะกรรมการจะพูดคุยในการปกป้องหรือนิรโทษกรรมได้อย่างไร ในการนำกลับเข้าเป็นยาเสพติด
ยืนยันว่า ในหลายประเทศการใช้กัญชายังอยู่ในยาเสพติด แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้
ขณะที่ กรณีสมรสเท่าเทียม นั้นเป็นการรับรองสิทธิไม่ใช่การบังคับทางศาสนาเป็นตัวตั้งคำถามของความเท่าเทียมทางเพศ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า กรณีสมรสเท่าเทียมเป็นกฎหมายที่จะใช้ในผู้ที่สมัครใจ และไม่บังคับแก่ผู้ที่นับถือศาสนาที่มีข้อห้ามทางศาสนา แต่รายละเอียด ขอบเขต จะปรากฎในกฎหมายที่จะออกต่อไป
นายพิธา ยังกล่าวว่า คณะทำงานจะมี 23 คณะตามที่ MOU โดยจะมีคณะทำงานเพิ่มเติมอีก ขณะที่แรงงานแพทย์ มี ชั่วโมงการทำงาน 100 ชม./สัปดาห์ นั้นสูงเกินไป ควรอยู่ที่ 60 ชั่วโมง/สัปดาห์ เพื่อให้แพทย์ทำงานได้ โดยอาจต้องเพิ่มบุคลากร ลดผู้ป่วยที่เข้าสู่ระบบ และมีระบบเทเลเมดิซีน ภาพจะชัดเจนเมื่อ ได้เข้าไปดูแลกระทรวงสาธารณสุข
“ชลน่าน” เผยตำแหน่ง ประธานสภาฯ – โหวตนายฯ มุ่งประโยชน์ ปชช.
นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีตำแหน่งประธานสภา คณะทำงานพูดคุยเบื้องต้นว่าตำแหน่งประธานสภาทั้ง 2 พรรคจะพูดคุยร่วมกัน และจะไม่ให้เกิดเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการตั้งรัฐบาลร่วมกันทั้ง 8 พรรค และการเลือกนายกรัฐมนตรี และมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของประชาชน
อ่านข่าว :