หน้าแรก Thai PBS คำต่อคำ “จตุพร” หงายไพ่ “ทักษิณ” ดีลกลับไทย-ชู “บิ๊กป้อม” เสียบนั่งนายกฯ

คำต่อคำ “จตุพร” หงายไพ่ “ทักษิณ” ดีลกลับไทย-ชู “บิ๊กป้อม” เสียบนั่งนายกฯ

79
0
คำต่อคำ-“จตุพร”-หงายไพ่-“ทักษิณ”-ดีลกลับไทย-ชู-“บิ๊กป้อม”-เสียบนั่งนายกฯ

วันนี้ (5 มิ.ย.2566) นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) วิเคราะห์แนวทางที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย ว่า ไม่มีครั้งไหนที่นายทักษิณ พูดว่าจะกลับบ้าน แล้วไม่มีการดีล เพียงแต่ว่า เป็นการดีลที่ไม่เคยสำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้ร่วม 20 ครั้ง เป็นการดีลแลกกับการกลับบ้าน โดยไม่ต้องถูกคุมขัง

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกือบ 17 ปี ที่นายทักษิณ ไม่ได้กลับประเทศไทย มีเหตุผลเดียวเท่านั้น คือไม่ต้องการกลับมาแล้วต้องถูกคุมขัง ดังนั้นจึงเกิดการดีลหลายรูปแบบ วันที่ 19 พ.ค.2555 ที่ประกาศไม่ให้พี่น้องคนเสื้อแดงตามไป เปรียบเหมือนกันถีบหัวเรือส่ง และนายทักษิณ ได้โทรศัพท์บอกโดยตรงด้วยว่า จะได้กลับบ้าน ในสัปดาห์ต่อมา

ต่อมาในปี 2557 กรณีพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งในตอนนั้นได้คัดค้านอย่างรุนแรงจนทำให้นายทักษิณโกรธ และนายทักษิณจะกล้า ยอมรับความจริงไม่ว่าเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ที่เกิดปัญหาในขณะนั้นเบื้องหลังมีการดีลเช่นเดียวกัน และยังนำพาให้ประเทศเกิดความเดือดร้อนมาร่วม 9 ปี

“ทักษิณ” แลกดีลพปชร-พท.ข้ามห้วยซบ

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมานายทักษิณ พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับบ้าน ส่วนในครั้งนี้ยืนยันว่าจะกลับมาในเดือนก.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ออกมายืนยันสอดคล้องกัน ซึ่งเป็นช่วงสมัยจะประชุมสภาฯ เลือกประธานสภา หลังจากนั้นจะเป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี

สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ มองตามความจริงแล้ว พรรคก้าวไกลและพรรคร่วมทั้งหมด รวบรวมเสียงได้อย่างเต็มที่คือ 312 เสียงเท่านั้น อีกฝั่งหนึ่งได้ 188 เสียง

ส่วนเสียงจากวุฒิสภา ก็น่าจะได้ไม่ถึงครึ่งหรืออาจจะน้อยกว่านั้น จึงเชื่อว่า โอกาสที่ 8 พรรคร่วมจะจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นศูนย์ ยังไม่นับกรณีคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ถูกตรวจสอบถือครองหุ้นสื่อไอทีวี และหากกรณีคุณสมบัตินายพิธา ลุกลามไปถึงส.ส.พรรคก้าวไกล ที่อาจจะนำไปสู่การเลือกตั้งซ่อมใหม่ ทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ

ทางเดียวที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ และเป็นคำตอบการดีลทักษิณกลับบ้าน คือ 141 เสียง ของพรรคเพื่อไทยย้ายขั้ว-ข้ามห้วย ไปจับมือกับเสียงข้างน้อย 188 เสียง และให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน

ประธานนปช.ยังวิเคราะห์ กว่า ขณะนี้นายทักษิณ เหลือสมบัติเดียว จะใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยน เพื่อได้กลับบ้านก็คือเสียงของส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่หากพรรคเพื่อไทย เกิดปัญหาจากการถูกร้องยุบพรรคกรณีต่างๆ เช่น เรื่องเงินดิจิทัล และ ส.ส.ของพรรค ก็อาจจะแตกไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่ว่าจะลงตัวที่สูตรได้สุดท้ายแล้วจะจบที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยย้ายขั้ว และหวยก็จะมาออกที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทัังนี้มองว่า หลายคนไม่เลือกพูดในวันนี้ว่า พรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ โดยส่วนตัวไม่ได้ผลประโยชน์อะไร และเชื่อว่าพรรคก้าวไกล จะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้อย่างแน่นอน ต่อให้ทุกกรณีหุ้นสื่อไอทีวี พร้อมแสดงความกังวลว่าเหตุการณ์จะนำไปสู่การต่อสู้บนท้องถนนของผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ที่เรียกว่าด้อมส้ม รวมไปถึงคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยบางส่วน

แนะ “ทักษิณ” ลงเครื่องกลับไทยยอมเข้าเรือนจำ

นายจตุพร ย้ำว่า หากนายทักษิณได้กลับไทย ไม่ว่าจะเป็นการดีลสูตรไหนก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องโทษถึงที่สุดจำคุก 12 ปี และทันทีที่ลงเครื่อง ตม. จะต้องควบคุมตัวส่งให้ทางกรมราชทัณฑ์ ส่งเข้าเรือนจำพิเศษ

แม้ว่าอดีตรมว.ยุติธรรม จะออกระเบียบให้บ้านเป็นที่ควบคุมตัวได้ แต่หากนายทักษิณ ใช้ช่องทางนี้ อาจเป็นเงื่อนไขการชุมนุมบนท้องถนน แต่ก็มีเส้นทางอื่นๆ เช่น กรณีเจ็บป่วยต้องส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนอกเรือนจำ และยังสิทธิขอภัยโทษเฉพาะตัว

นายจตุพร ยังระบุในฐานะที่เคยผ่านประสบการณ์ใช้ชีวิตในเรือนจำว่า นายทักษิณต้องทบทวน สิ่งที่ได้เคยบอกกับนายทักษิณไว้ ก่อนนายทักษิณ จะออกนอกประเทศเมื่อ 17 ปีก่อนว่า “คุกเล็กกว่าตัวท่าน ท่านติดคุกวันไหนคุกก็จะแตก และ กระบวนการประชาธิปไตยจะแข็งแรงเป็นนิรันดร์”

ในตอนนั้นเสียงส่วนใหญ่ บอกว่านายทักษิณติดคุก แล้วต้องตาย แต่ขอเป็นเสียงข้างน้อยที่ไม่เชื่ออย่างนั้น

ทั้งนี้ได้มีโอกาสไปนอนห้องที่ทางกรมราชทัณฑ์เตรียมไว้สำหรับนายทักษิณมาแล้ว ในช่วงที่ถูกคุมขังเป็นรอบที่ 5 ช่วงโควิด-19 และได้เจออดีตรัฐมนตรี-นักต่อ สู้จำนวนมาก ซึ่งทำให้ได้เห็นความเป็นจริงหลายอย่าง และภาษาคุกสอนว่า อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ต้องวางให้ได้ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นใคร หรือออกไปแล้วจะไปทำอะไร ให้อยู่กับปัจจุบัน การติดคุกเหมือนการไปปฏิบัติธรรม 

ขอให้นายทักษิณ จะต้องแสดงความกล้าในการเป็นผู้นำ ลงเครื่องเดินเข้าสู่เรือนจำอย่างสง่างาม หากทำได้เช่นนี้ ก็ไม่ต้องดีลอะไรกับใคร แต่ดีลกับหัวใจตัวเองก็พอแล้ว

หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของชะตากรรมว่าจะได้รับอิสรภาพภายในเมื่อไหร่ โดยเชื่อว่าในเรือนจำไม่มีใครทำอะไรนายทักษิณ แต่จะถูกดูแลเหมือนไข่ในหิน

แต่ถ้านายทักษิณ มีความหวังอย่างอื่น ฉันถูกคุมขังถึงไม่กี่วัน หรือถูกควบคุมตัวที่บ้าน หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องดีลแลกกับสมบัติชิ้นสุดท้ายในเรื่องความเชื่อของความเป็นมนุษย์ ดังนั้นถ้านายทักษิณ ดีลกับหัวใจตัวเองก็จะไม่สูญเสียความเป็นมนุษย์ แต่ถ้าต้องดีลแลกกับอะไรท้ายที่สุดก็อาจจะไปสู่หายนะ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พิธา”ปัดตอบขายหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น โยนเลขาฯ พรรคแจง 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่