‘ประยุทธ์’ เผย ‘อนุทิน’ แจงแล้วหลังกลับอังกฤษปมกระแสดีลลับเลสเตอร์ ชี้ไม่มีอะไรทั้งนั้น มองจะลับอย่างไรคนเป็นหมื่น – บอกมองไม่เห็นโอกาสหวนนั่งนายกรัฐมนตรี – ลั่นไม่กลัว ถูกเช็คบิลย้อนหลังหากเปลี่ยนขั้วรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานเครือข่ายญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ยื่นคำร้องต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ออก พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ กม.อุ้มหายโดยมิชอบ ว่า ตนได้ปรึกษา วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่มีปัญหาอะไร มันมีเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ
ส่วนในวันนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธรณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง ได้รายงานที่เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ แล้วเกิดกระแสเรื่องดีลรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีอะไร ท่านบอกว่าไปดูฟุตบอลเฉยๆ พอดีมีเวลาว่างจากการไปประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ไปดู
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่มีดีลลับใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีดีลลับอะไร เขาไม่ลับหรอก คนขนาดนั้นในสนามฟุตบอลไม่ลับหรอก คนเป็นหมื่นไม่รู้จะไปดีลอะไรกันตรงไหน นั่งตรงไหนยังไม่รู้เลย
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การตัดต่อภาพอะไรต่างๆเยอะแยะ แล้วไปสร้างประเด็นขึ้นมา เช่นของผมเอาไปดัดแปลงอะไรบ้างก็ไม่รู้ดูแล้วทุเรศเกินไป (เดาว่าน่าจะเป็นชุดงานpride) วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลมากมายเหลือเกิน เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อทุกเรื่องก็แล้วกัน
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้มีการพูดถึงแนวทางรัฐบาลข้ามขั้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบส่วนกลับในทันทีไม่รอฟังคำถามให้จบ ว่า ไม่ทราบ ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ขณะเดียวกันใครจะเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องกลไกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายที่มีอยู่ ผมไม่เกี่ยว ผมก็เป็นรัฐบาลรักษาการ ดูแลประชาชนพี่น้องของเรา ขับเคลื่อนงานต่างๆที่ทำได้ เพราะเรายังมีความเดือดร้อนอยู่หลายมิติด้วยกัน ดูแลประชาชนไปก่อน ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของกระบวนการ ต้องเป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามย้ำอีกว่า ในใจยังหวังจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีในใจ นอกใจ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า จะเอาคำตอบให้ได้เลยหรือ ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าจะได้รู้ว่านายกฯจะไปต่อหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบกลับด้วยเสียงสูงว่า แล้วมันไปได้หรือ สื่อมวลชนจึงถามต่อว่าแล้วหากมีโอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับว่า ผมยังไม่เห็นโอกาสเลย มันจะไปได้อย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า หากพรรคในลำดับที่ 1 และ 2 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเล็กอาจจะรวบรวมเสียงเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็สามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหันหน้าไปหา ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะหัวเราะ และยักคิ้ว ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า เฮ้ยอย่าคิดไปถึงขนาดนั้นเลย เออเธอคิดไปเธอมาเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน มาคิดแทนฉันหน่อย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันเป็นไปได้หรือ และเมื่อถามต่ออีกว่า ยังไว้ใจพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถ้าจะนำจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากโพเดียม และกล่าวว่าไม่ทราบ
และเมื่อถามไล่หลังไปอีกว่า กลัวจะถูกเช็คบินย้อนหลังหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงของขั้วรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กลัว ก่อนจะเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้าในทันที