วันนี้ (9 มิ.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ระบุถึงการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคการเมืองว่า ไม่ได้ทาบทามตนเองเข้าไปร่วมในคณะทำงาน และตนเองไม่ได้โฟกัสเรื่องคณะทำงาน หรือการจัดตั้งรัฐบาล โฟกัสเพียงแค่งานในพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้ เพราะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนกัน และขออวยพรให้ประสบผลสำเร็จ
ส่วนหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะที่เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะไปทำหน้าที่หรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เคยคิด เป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องเดินหน้า
อีกทั้งพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับ 1 จึงต้องให้เกียรติพรรคก้าวไกลในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล พร้อมย้ำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล หรือคณะทำงาน
นายเศรษฐายังกล่าวถึงการรีแบรนด์พรรคเพื่อไทยว่า ยังคงเดินหน้าตามขั้นตอน ขอเวลาทำงาน และความจริงก็มีการพัฒนาอยู่ตลอด หากมีความคืบหน้าจะมาแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ซึ่งหลังกลับจากต่างประเทศ ก็ถือว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และพร้อมกลับมาทำงานต่อ
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมฟ้องกลับ นายสนธิญา สวัสดี ที่ไปร้องยุบพรรคเพื่อไทย หลังชะลอนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้
นายเศรษฐา ยังไม่ทราบเรื่องที่ครอบครัวชินวัตร เบรกนายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทย ขอให้ไปถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เพราะตนเองมีหน้าที่ทำงานด้านเศรษฐกิจให้กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ส่วนที่ครอบครัวชินวัตร บอกว่า น.ส.แพทองธาร ยังไม่เหมาะสมนั่งตำแหน่งนายกฯในขณะนี้ และสนับสนุนให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร มีความเหมาะสม เป็นผู้หญิงที่เก่ง จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาทุกคนก็เห็นผลงานแล้ว และเชื่อว่ามีวุฒิภาวะมากพอ ไม่เช่นนั้นไม่ได้การรับรองจากคณะกรรมการบริหารพรรคให้เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย
สำหรับวันนี้นายเศรษฐาได้มาร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าด้านเศรษฐกิจ ให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรครับทราบและจะขอคำแนะนำ วิธีการทำงานจากผู้ใหญ่ในพรรคว่าทำงานมาถูกทางแล้วหรือไม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า