วันนี้ (13 มิ.ย.2566) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. กรณีการถือครองหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในประเด็นที่ กกต.ตั้งคณะสืบสวนสอบสวนนายพิธา ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 โดยเห็นว่า ควรเอาเอกสารส่งเพิ่ม แม้เข้าใจว่าคำร้องที่ได้ยื่นถูกตีตกไปแล้ว
นายเรืองไกร ระบุว่า มีข้อมูล 4 ประเด็น ที่มอบให้ กกต. คือ รายละเอียดกรณีที่นายพิธาโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเอง เรื่องการโอนหุ้นของนายพิธาที่มีการโอนในวันที่ 25 พ.ค.2566 การรายงานการประชุมวาระท้าย ที่เกี่ยวกับการซักถามของการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ของวันที่ 26 เม.ย.2566
โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของไอทีวี รวมถึงไม่ตรงกันกับคลิปภาพที่ออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับคำร้องและไม่ทำให้ข้อกฎหมายของรัฐธรรมนูญเปลี่ยนไป
และข้อเท็จจริงที่มาร้องเปลี่ยนไป เพราะกฎหมายบอกว่าผู้สมัครต้องไม่เป็นผู้ถือหุ้น และสุดท้ายเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของไอทีวีหลังจากถูกบอกเลิกสัญญาจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้นายพิธาเปิดบัญชีทรัพย์สิน ทั้งหมดต่อสาธารณะทันทีหลังจากที่ยื่น ป.ป.ช.เพื่อแสดงความรับผิดชอบ และไม่เชื่อว่าทรัพย์มรดกจะมีแค่หุ้นนี้เท่านั้น ทั้งนี้การยื่นตรวจสอบการถือครองหุ้นสื่อของนายพิธาไม่ใช่เป็นกระบวนการปลุกผี “ไอทีวี”
และยืนยันว่าทำคนเดียวไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง และไม่กังวลกรณีที่ถูกยื่นร้องว่า ใช้เอกสารเท็จในการยื่นตรวจสอบตามมาตรา 143 พร้อมยืนยันว่า ทันทีที่ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งแล้วจะมายื่นร้องตรวจสอบสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.และนายกรัฐมนตรีของนายพิธาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จัก “สารัชถ์ รัตนาวะดี” CEO กัลฟ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ INTUCH
“เรืองไกร” อ้างแหล่งข่าวแจ้งเบาะแสหุ้นสื่อ “พิธา”