วันนี้ (16 มิ.ย.2566) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสำนักงาน กกต.ได้มีการเสนอข้อมูลการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่เห็นว่าการรับรองผลจะต้องมีข้อมูลประกอบมากกว่านี้เพราะฉะนั้นกระบวนการพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจะมีการประชุมต่อในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย โดยยืนยันว่า การประกาศรับรองผลจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน ทั้งนี้จะช้าหรือเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่
นายอิทธิพร กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้นั้นมาจากผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามว่ามีว่าที่ ส.ส.คนใดเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จหากสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 95 แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถประกาศให้ได้ครบร้อยละ 100 ยืนยันว่า กกต.จะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562
นายอิทธิพร ยอมรับว่า เอกสารหลุดที่พบว่ามี ว่าที่ ส.ส. 71 คน ที่พบเรื่องร้องเรียนเป็นเอกสารตัวจริงที่สำนักงานเสนอข้อมูลต่อที่ประชุม กกต. เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งไม่ใช่ข้อมูลหลักและยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
ส่วนมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ประกาศรับรองผลให้กับ 71 ว่าที่ ส.ส.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อดูข้อมูลคำร้องจะสามารถพูดได้ว่าสำนวนที่ร้องเป็นประเภทใดหากเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่าจะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปก่อน
ทั้งนี้หากจะต้องพิจารณาใบเหลืองหรือใบส้มจะมีระยะเวลาดำเนินการอย่างไรนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า หากมีใบเหลืองหรือใบส้มจะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรองผล ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้นจะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ซึ่งข้อมูลมาจาก กกต.จังหวัดหรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสนอผ่านเลขาธิการ กกต.เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ซึ่งไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป
นายอิทธิพร ยืนยันว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบ 60 วัน หาก กกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถที่จะทำได้เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องย่นให้สามารถระยะเวลา เพื่อดำเนินการ ซึ่งขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง กกต.ยังไม่ได้มีการเริ่มพิจารณา
สำหรับกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทไอทีวีจะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการโดย กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะดำเนินการไปตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน โดยกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน ย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด
ส่วนจะต้องแยกระหว่างการประกาศรับรองผลกับการสืบสวนไต่สวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญคือการเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่
ส่วนกรณีบริษัทไอทีวี ล่าสุดออกแถลงการณ์ เป็นเอกสารคำชี้แจงโดยมีทั้งเอกสารลงบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงเอกสารที่ยื่นให้กับ ป.ป.ช.ในฐานะผู้จัดการมรดกจะมีผลต่อการพิจารณาของ กกต.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตามอำนาจการตรวจสอบของคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจะมีการเรียกพยานหรือเอกสารได้ โดย กกต.จะไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงาน โดยขั้นตอนของคณะกรรมการไต่สวนฯ มีหน้าที่ให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ดังนั้นเรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงข้อรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณาหรือการนำเสนอของใครทุกอย่าง กกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุมเมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามาอาจจะไม่เหมาะสมถ้าหากพูดเรื่องนี้ไปก่อน
ส่วนเรื่องนี้จะต้องให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมายไม่จำเป็น แต่สามารถนำข้อมูลในชั้นของคณะกรรมการสืบสวนมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ตามมาตรา 82 รวมถึงจะเอาผลการพิจารณาตามมาตรา 151 ประกอบการยื่นได้หรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึง กกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอหรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมหรือสามารถตัดสินได้เลย
สำหรับความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันปัญหา ประธาน กกต. กล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวน ก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม