‘กัณวีร์’ ค้านแบ่งแยกดินแดน ปัดอยู่เบื้องหลังการเปิดตัวขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ เชื่อถูกพุงเป้าทำลายทางการเมือง ยื่นยุบพรรคเพื่อล้มพรรคร่วมรัฐบาล แจงปมงดออกเสียง มติ กก.บห. ให้รองเลขาธิการ-รองโฆษกพรรค พ้นจากตำแหน่ง ย้ำเป็นไปตามข้อบังคับพรรค
วันที่ 16 มิ.ย. 2566 กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ชี้แจงกรณี ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้ลงนามในหนังสือ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2566 แจ้งให้ ฮากิม พงติกอ พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม และ ยามารุดดิน ทรงศิริ พ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเป็นธรรม ด้วยในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นธรรมพิเศษครั้งที่ 1/2566 คณะกรรมการบริหารพรรค มีมติเสียงส่วนใหญ่ให้ทั้งสองคนพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป
กัณวีร์ ยืนยันว่า งดออกเสียง ในการลงมติครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องภายในคณะกรรมการบริหารพรรคที่มีมติเป็นเสียงส่วนใหญ่ ที่พิจารณาไปตามข้อบังคับพรรค ซึ่งในส่วนของ ฮากิม พงติกอ ที่ไปเข้าร่วมเวทีเสวนาในการเปิดตัวขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่ จ.ปัตตานี ทางพรรคไม่ได้รับทราบ เพราะไม่มีหนังสือเชิญมาถึงหัวหน้าพรรค และนายฮากิม ยืนยันแล้วว่าไปในนามส่วนตัว แต่เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่พรรคเป็นธรรม โดย ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรค ได้แสดงจุดยืนไปแล้วว่า เคารพการแสดงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แต่ไม่สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน ที่ละเมิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการบริหารพรรคจึงจำเป็นต้องมีมติที่ชัดเจนว่าไม่สนับสนุนกิจกรรมที่อาจละเมิดรัฐธรรมนูญได้ ในส่วน ยามารุดดิน ทรงศิริ ที่คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติให้พ้นจากตำแหน่งรองโฆษกพรรค ก็เป็นเหตุผลภายในที่มีพฤติกรรมขัดกับข้อบังคับพรรค ซึ่งตนเองก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
“ผมยืนยันว่าในส่วนตัวที่ได้ร่วมทำงานกับน้องๆในช่วงเลือกตั้ง น้องๆทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานการเมืองเพื่อสนับสนุนสันติภาพปาตานี การได้รับเลือกเป็นส.ส. คะแนนส่วนหนึ่งกว่า 12,000 คะแนน ก็มาจากพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผมและผู้สมัคร ส.ส.และน้องๆได้ร่วมกันหาเสียงมาด้วยกัน จากทั้งประเทศ กว่า 180,000 คะแนน การเคารพเสียงของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงเป็นสิ่งที่ผมตระหนักไว้เสมอว่าจะไม่ละทิ้งเจตนารมณ์ที่จะเป็นตัวแทนชาวปาตานี มาทำงานเพื่อชาวปาตานี”
กัณวีร์ ยังเปิดเผยถึงกรณี ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ยุบพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการเปิดตัวขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ที่มีการทำแบบสอบถามประชามติแบ่งแยกดินแดนที่ จ.ปัตตานี โดยยืนยันว่า พรรคเป็นธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดเวทีดังกล่าว
“ผมยืนยันว่าพรรคเป็นธรรมไม่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวขบวนการนักศึกษา ไม่ว่าจะทางใด จะมีก็เพียง เคารพการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา ที่ต้องมีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพเท่านั้น ซึ่งการจัดกิจกรรมต่างๆก็ต้องเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ เพราะพรรคเป็นธรรมไม่มีนโยบายสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน ที่ละเมิดมาตรา 1 กฏหมายรัฐธรรมนูญ”
นายกัณวีร์ เปิดเผยด้วยว่า มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่ฝ่ายความมั่นคงจะดำเนินคดีกับเยาวชนนักศึกษาที่ทำกิจกรรมนี้ โดยไม่มีการรับฟังข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพราะจากที่ฟังการชี้แจงของขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ยืนยันว่า ไม่ได้จัดทำประชามติแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นการทำแบบสอบถามว่าเห็นด้วยหรือไม่หากจะให้จัดทำประชามติเพื่อกำหนดชะตากรรมตนเอง ซึ่งหลักการ Right to Self-Determination หรือ RSD เป็นสิ่งที่ยังต้องเปิดพื้นที่ให้มีการพูดคุยในพื้นที่สาธารณะอีกมาก เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องนำมาหารือในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ
“จากที่ผมติดตามสถานการณ์มาช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไม่อยากคิดว่ามีการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อหวังล้มพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะจากการชี้แจงของผู้เข้าร่วมงานทั้ง วราวิทย์ บารู ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี พรรคประชาชาติ และ ฮากิม พงติกอ อดีตรองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม รวมถึงน้องๆนักศึกษา ก็ยืนยันว่าเชิญตัวแทนพรรคการเมืองไปร่วมเพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นเรื่องการกำหนดชะตากรรมตนเองด้วย ซึ่งในเวทีเสวนาวันนั้น ยังมี อาเต็บ โซะโก ประธาน The Patani มาร่วมด้วย แต่ทำไมถึงมีการพุ่งเป้ามาที่ผมและพรรคเป็นธรรม ทั้งๆที่ผมไม่ได้เข้าไปร่วมเวทีนี้แต่อย่างใด”
กัณวีร์ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เข้าร่วมงานนี้ แต่ทำไมถึงถูกเชื่อมโยงเพื่อหาทางจะยุบพรรคเป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นเพราะนโยบายสันติภาพปาตานี อาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางความมั่นคง ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยยืนยันว่าการสร้างความเข้าใจกับสังคมถึงคำว่า “ปาตานี” เป็นการสร้างการรับรู้ว่า ปาตานี ไม่ใช่คำที่หมิ่นเหม่กับความมั่นคงที่จะหมายถึงการแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ตัวตน ที่เป็นความภาคภูมิใจของประชาชน และเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการแสดงความจริงใจต่อกระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน
“ผมยังยืนยันที่จะผลักดันนโยบายยกระดับกระบวนการสร้างสันติภาพปาตานีเข้าสู่รัฐสภา เพราะจะเป็นทางออกทางการเมืองที่ดีที่สุด และพร้อมพิสูจน์ความตั้งใจนี้ต่อไป” กัณวีร์ กล่าว