วันนี้ (25 มิ.ย.2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค แถลงภายหลังจัดประชุม ส.ส. พรรคครั้งแรก 71 คน โดยมี ส.ส. หน้าใหม่ 27 คน แต่ขาดบางส่วนที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ว่าส่วนใหญ่วันนี้แค่ละลายพฤติกรรม ทำความรู้จักกัน เข้าใจการทำงานของพรรค เพื่อความเป็นเอกภาพ และพร้อมเข้าไปทำงานในฐานะ ส.ส. ตั้งแต่ 3 ก.ค. ซึ่งจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และปฏิทินการเมืองหลังจากนั้น คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามครรลอง ยังไม่ได้หารือทิศทาง การโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
พร้อมกันนี้ยังขอฉันทามติให้ หัวหน้าและเลขาฯ ตัดสินใจในการทำหน้าที่ดำเนินการใดๆ ที่จะขับเคลื่อนงานทางการเมือง หลังจากนี้ และยังไม่ได้ประชุมถอดบทเรียน จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คงต้องรอหลังตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งยังไม่ได้คุยแนวคิดที่จะให้ 50 ส.ส. ตรวจสอบคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
นายอนุทิน ยังกล่าวย้ำว่า ไม่ได้หารือเรื่องการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคอันดับ 1 จะนำเสนอรายชื่อประธานและจัดตั้งรัฐบาล
ส่วน มีกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อคนของพรรคภูมิใจไทยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะไม่ทำอะไรที่จะบล็อกหรือเป็นอุปสรรคทางการเมืองโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านจัดตั้งรัฐบาล คงเป็นข่าวลือ อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาดูว่าใครเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นประธานและรองประธาน โดยจะไม่เปิดฟรีโหวต คงต้องหารือกันก่อน แม้จะเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่พรรคจะมีการหารือซึ่งทุกอย่างอยู่ที่สถานการณ์
ส่วนที่กระแสข่าวสูตรจัดตั้งรัฐบาลสูตร ที่มีพรรคภูมิใจไทยเพื่อไทยและพลังประชารัฐ นายอนุทิน ยืนยันว่าเป็นสูตรของผู้สื่อข่าวไม่ใช่สูตรของพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้พรรคต้องท่อง 3 บท คือ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” แต่ ไม่ได้รอส้มหล่น อาจจะรอเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการเป็นผู้แทนราษฎร อะไรที่นอกเหนือจากนี้ คือบริบทการเมือง ซึ่งพรรคอยู่บทบาทไหนก็ได้หมด เพราะทุกพรรคก็เคยเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
อ่านข่าว : โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา 3 ก.ค.66
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าจะฉีกแถลงการณ์พรรคที่ระบุว่า จะไม่ร่วมงานทางการเมืองกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 โดยยืนยันว่า ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง จุดยืนดังกล่าวเพราะถือเป็นธรรมนูญของพรรคถ้าจะเปลี่ยนแปลง ยุบพรรคดีกว่า ไม่เช่นนั้นตนและเลขาธิการพรรค ก็ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองจะทำอะไรลับๆ ล่อๆ ไม่ได้ ยิ่งออกแถลงการณ์ไปแล้วก็ต้องทำ เหมือนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ต้องทำจะไม่ทำไม่ได้
ส่วนกรณีที่มี ส.ว. พร้อมสนับสนุน รัฐบาลเดิม 181 เสียง นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การตั้งรัฐบาล ต้องเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่น่ารอด ต้องรอวันตาย ใครจะไปทำสิ่งเหล่านั้น ทำเพื่อสะใจใคร ทำอะไรต้องยั่งยืน เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง ไม่สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และยุคสมัยนี้ไม่มีงูเห่าแล้ว ทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก
ส่วนสูตร 4 ในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่มี
ขณะที่ สูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นมาทำให้แสดงว่าสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยได้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน เปิดเผยว่า ทุกพรรคก็มีแฟนคลับของตัวเองและต้องขอบคุณแฟนคลับพรรคภูมิใจไทยที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด เราไม่
สูญเสียกำลังใจ เราแพ้เพียง 10% ซึ่งมีเหตุผลหลายๆ อย่าง เราจะต้องทำงานให้หนักมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่เราดีใจคือเรามี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ถือว่านี่คือจุดแข็งของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทใด ส.ส. เหล่านี้เป็นที่ไว้วางใจของประชาชนและพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทย เป็นกำลังใจให้ทำหน้าที่ ส.ส. อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ดีใจ ที่ได้เป็นพรรคอันดับ 3 แต่ก็นึกว่าจะได้เป็นพรรคอันดับ 2
ทั้งนี้ช่วงท้ายการแถลงข่าว นายอนุทิน บอกโปรดติดตามตอนต่อไป “สู้ต่อไปทาเคชิ”
อ่านข่าวอื่นๆ :
“กรณ์” ลาออกหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า