เกาหลีเหนือจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ในกรุงเปียงยาง เพื่อประณาม “ลัทธิจักรวรรดินิยม” ของสหรัฐฯ และพวกเขาได้มอบคำสัญญาว่า เกาหลีเหนือจะทำ “สงครามล้างแค้น” ลัทธิจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ ทั้งนี้ การเดินขบวนในเกาหลีเหนือครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 73 ปี การปะทุขึ้นของสงครามเกาหลี
KCNA สำนักข่าวของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานเมื่อวันจันทร์ (26 มิ.ย.) ว่า ในการเดินขบวนครั้งนี้ ประกอบไปด้วยผู้เดินขบวนแห่และผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวและคนงานประมาณ 120,000 คนในกลางกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ โดยมีรายงานว่า คิมจองอึน ในฐานะเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลีเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
จากการเผยแพร่ภาพถ่ายโดยสำนักข่าว KCNA เปิดเผยให้เห็นถึงสนามกีฬาที่คับคั่งไปด้วยผู้คน โดยหลายคนสวมเสื้อสีขาว ในขณะที่บ้างเดินอยู่ในขบวนแห่ พร้อมกันกับการกำปั้นมือด้านขวาชูไปอากาศ และถือป้ายที่มีข้อความว่า “พื้นที่แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งหมด อยู่ในระยะการยิงของเรา” อันเป็นการขู่ว่าระยะยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ สามารถยิงไปได้ถึงสหรัฐฯ ยังมีป้ายข้อความที่ระบุอีกว่า “ลัทธิจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ คือผู้ทำลายสันติภาพ”
สงครามเกาหลีปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2493 เมื่อเกาหลีเหนือยกกองทัพเข้าบุกเกาหลีใต้ อันเป็นความพยายามในการรวมคาบสมุทรเกาหลีเป็นแผ่นดินเดียวกันอีกครั้ง ภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ในกรุงเปียงยาง โดยการบุกรุกดังกล่าวนำไปสู่สงครามที่กินเวลานาน 3 ปี
สงครามเกาหลีนับเป็นอีกหนึ่งสนามสงครามเย็น โดยกองทหารทางตอนเหนือที่ได้รับการหนุนหลังจากโซเวียตและจีน เปิดฉากทำสงครามกับกองทหารทางตอนใต้ที่มีสหประชาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ คอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ สงครามเกาหลีคร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 2 ล้านคน
การฉลองวาระครบรอบสงครามเกาหลี ซึ่งยุติลงด้วยการพักรบแทนที่จะเป็นการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ เกิดขึ้นหลังการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์โดยเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงความพยายามในการส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรกขึ้นสู่วงโคจร โดยความพยายามดังกล่าวสิ้นสุดลงด้วยความล้มเหลวในวันที่ 31 พ.ค. อย่างไรก็ดี ทางการเกาหลีเหนือให้คำมั่นว่า พวกเขาจะพยายามยิงดาวเทียมสอดแนมขึ้นไปบนอวกาศอีกรอบเป็นครั้งที่สอง แม้จะยังไม่ได้ระบุวันปฏิการก็ตาม
KCNA ระบุในรายงานว่า ขณะนี้เกาหลีเหนือมี “อาวุธเด็ดขาดที่แข็งแกร่งที่สุด ที่จะลงโทษพวกจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ” และ “ผู้ต้องการล้างแค้นบนแผ่นดินนี้กำลังลุกโชน ด้วยเจตจำนงที่ไม่ย่อท้อเพื่อแก้แค้นศัตรู”
เกาหลีเหนือมีการทดสอบอาวุธจำนวนมากในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งลูกแรก ในขณะที่คิมยังเดินหน้าตามแผนของเขา ในการปรับปรุงกองทัพเกาหลีเหนือให้ทันสมัย และพัฒนาคลังแสงที่ทรงพลังยิ่งขึ้น โดยคิมให้เหตุผลว่าการสร้างเสริมการป้องกันตนเองของเกาหลีเหนือเท่าที่จำ เป็นผลมาจากการซ้อมรบทางทหารที่จัดขึ้นโดยเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
ในรายงานของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือฉบับหนึ่ง เกาหลีเหนืออ้างว่าสหรัฐฯ “กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์” และกล่าวหาว่าสหรัฐฯ ส่งทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์มายังภูมิภาคเกาหลีด้วย
ทั้งนี้ การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์หยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2562 เมื่อการประชุมสุดยอดระหว่างคิมกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้นได้ล่มลง เพราะมาตรการคว่ำบาตรจากทางการสหรัฐฯ
ที่มา: