ทำเนียบขาวประกาศว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก หรือ CPAP เพื่อรับมือกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หลังจากมีผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นรอยเว้าบนใบหน้าของไบเดนในวันพุธ (28 มิ.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมบินไปชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ เพื่อกล่าวสุนทรพจน์สำคัญเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ
รอยเว้าบนใบหน้าของไบเดนบ่งชี้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ สวมหน้ากากบางชนิด ก่อนหน้าที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ไบเดนเพิ่งเริ่มใช้เครื่อง CPAP เพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับของเขา
“นับตั้งแต่ปี 2551 ท่านประธานาธิบดีได้เปิดเผยถึงประวัติภาวะหยุดหายใจขณะหลับของเขาในรายงานทางการแพทย์อย่างละเอียด โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาได้ใช้เครื่อง CPAP ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่มีประวัติภาวะดังกล่าว” แอนดรูว์ เบทส์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
แม้โฆษกทำเนียบขาวจะออกมาเปิดเผยประเด็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับของไบเดน อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับอายุของไบเดน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ที่ 80 ปี โดยเขาเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และหากเขาลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในสมัยหน้าได้สำเร็จในปี 2567 ไบเดนจะมีอายุ 86 ปีเมื่อสิ้นสุดวาระที่ 2
นักวิจารณ์กล่าวว่าความกังวลในประเด็นสุขภาพไบเดนของสังคมมีมากเกินไป และสุขภาพของไบเดนเองยังคงแข็งแรง แม้ว่าการผลสำรวจจะบ่งชี้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้สหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับอายุของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
ในผลการสำรวจความคิดเห็นของ NBC เมื่อเดือน เม.ย.พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหรัฐฯ ประมาณ 70% กล่าวว่าไบเดนไม่ควรลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2567 ที่จะถึงนี้ โดยมี 48% อ้างถึงปัจจัยด้านอายุของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นประเด็นอันสำคัญ
คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันของไบเดน ได้นำประเด็นด้านอายุของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาโจมตีในการหาเสียงเช่นกัน โดย โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีอายุอ่อนกว่าไบเดนเพียงไม่กี่ปีด้วยวัย 77 ปี ตั้งชื่อเล่นให้ไบเดนว่า “โจง่วงนอน” (Sleepy Joe) และ นิกกี้ เฮลีย์ อดีตผู้ว่าการมลรัฐเซาท์แคโรไลนากล่าวว่า ไม่น่าจะ “เป็นไปได้” ที่ไบเดน “จะอยู่ได้จนถึงอายุ 86 ปี” ทั้งนี้ ทั้งเฮลีย์และทรัมป์ได้ประกาศตัวลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จาดพรรครีพับลิกันในปี 2567 ทั้งคู่
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยอาการของผู้มีภาวะนี้จะมีลักษณะการหยุดหายใจเป็นช่วงสั้นๆ ระหว่างนอน และอาจส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้า ความดันโลหิตสูง และปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ทั้งนี้ ประชากรประมาณ 30 ล้านคนในสหรัฐฯ มีอาการดังกล่าว และ 8 ล้านคนใช้เครื่อง CPAP ซึ่งส่งกระแสอากาศอย่างต่อเนื่องเข้าไปในหน้ากากที่สวมขณะนอนหลับ
ในเดือน ก.พ. แพทย์ของไบเดนกล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ “แข็งแรงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่” หลังจากการตรวจร่างกาย อย่างไรก็ดี รายงานของแพทย์ไม่ได้กล่าวถึงภาวะหยุดหายใจขณะหลับของไบเดน แต่กล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับมือกับอาการคัดจมูกมา “เกือบทั้งชีวิตของเขา” โดยอาการดังกล่าวนี้ดีขึ้นหลังจากการผ่าตัดจมูกหลายครั้ง
อย่างไรก็ดี ความผิดพลาดและการพลาดพลั้งของไบเดน มักก่อให้เกิดการตั้งคำถามของสื่อเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายและความคิด โดยเมื่อช่วงเช้าวันพุธ ไบเดนกล่าวว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กำลัง “แพ้สงครามในอิรัก” แม้ว่าเขาจะตั้งใจพูดว่า “ยูเครน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการตั้งคำถามอีกครั้งเกี่ยวกับอายุและสภาพจิตใจของไบเอนเอง
ที่มา:
